ศาลอาญา 11 ก.ค.- “สุเทพ” ยันตั้งแต่ “อภิสิทธิ์” รับตำแหน่งนายกฯ ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงสร้างความปั่นป่วน ชี้การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่และประชาชนในเหตุชุมนุม เพราะ “พ.ต.ท.ทักษิณ” สั่งการ
ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (11 ก.ค.) ศาลได้สืบพยานโจทก์ คดีหมายเลขดำ อ.1008/2553
ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และ 332 กรณีระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2553 นายจตุพร จำเลย ได้กล่าวปราศรัยต่อกลุ่มคนเสื้อแดงและประชาชนที่รับชมผ่านสถานีโทรทัศน์ช่องพีเพิ่ล แชนแนล ใส่ความว่าโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีที่สั่งฆ่าประชาชน หลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร และข้อความอื่นที่ล้วนเป็นเท็จ
โดยวานนี้ (11 ก.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ อดีต ผอ.ศอฉ. เดินทางเบิกความ
สรุปว่า ตั้งแต่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี มีกลุ่มคนเสื้อแดงพยายามปิดทางเข้า-ออกรัฐสภา รวมถึงวันที่รัฐบาลต้องแถลงนโยบายหลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ว แกนนำ นปช.รวมถึงจำเลยได้ปลุกระดมคนเสื้อแดงให้ปิดล้อมและขัดขวางการทำงานของนายอภิสิทธิ์ ทำให้ต้องไปแถลงนโยบายที่กระทรวงการต่างประเทศ และยังมีการปลุกระดมให้กลุ่มคนเสื้อแดงขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเมื่อปี 2552 ซึ่งมีหลักฐานเป็นคลิปบันทึกภาพ-เสียงคำปราศรัยบนเวที โดยโจทก์ไม่ใช่ผู้สั่งฆ่าประชาชนตามที่แกนนำ นปช.ปราศรัยอ้างว่ามีคลิปเสียง สุดท้ายแล้วมีการตรวจสอบ พบว่ามีการตัดต่อ อีกทั้งที่ผ่านมาไม่มีการสั่งการให้ทำการรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพียงแต่ให้ใช้เจ้าหน้าที่ผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวกัน แล้วจัดรถให้เดินทางกลับบ้านเท่านั้น
นายสุเทพ ตอบการซักค้านของทนายความจำเลย ระบุว่า การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่และประชาชนในเหตุการณ์ชุมนุม
เกิดจากการสั่งการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และบริวาร รวมทั้งจำเลยคดีนี้ด้วย เพราะมีการใช้อาวุธสงครามของกลุ่มเสื้อแดง จึงมีเหตุความวุ่นวาย ซึ่งการเสียชีวิต 89 ศพนอกจากคนเสื้อแดงแล้วยังมีเจ้าหน้าที่รวมอยู่ด้วยถึง 9 ราย และมีความชัดเจนว่าเป็นการกระทำของกำลังพลเสื้อแดง ซึ่งทนายความจำเลยยังได้พยายามซักถามนายสุเทพโดยอ้างถึงบทสัมภาษณ์ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อดีตโฆษก ศอฉ.ในหนังสือพิมพ์ระบุว่าภารกิจในควบคุมการชุมนุมเมื่อปี 2553 ไม่ใช่ภารกิจหลักของทหาร แต่เป็นภารกิจของ ศอฉ.ที่ทหารจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของนายสุเทพที่เป็น ผอ.ศอฉ.
โดยนายสุเทพ ได้นำข้อความที่อ้างว่า พ.อ.สรรเสริญ ส่งข้อความเข้ามือถือนายสุเทพ
ชี้แจงกรณีที่มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งลงข่าวดังกล่าว ตอบการซักถามทนายความจำเลยว่า พ.อ.สรรเสริญ ส่งข้อความมาบอกพยานว่า พ.อ.สรรเสริญไม่เคยสารภาพว่าเจ้าหน้าที่ยิงทำร้ายประชาชนที่บริสุทธิ์ หรือกระทำผิดกฎหมายตามที่เป็นข่าว โดยมีหนังสือพิมพ์โทรไปถาม พ.อ.สรรเสริญ ดังนั้น น่าจะแสดงให้เห็นว่า พ.อ.สรรเสริญ ปฏิเสธต่อข่าวที่มีการนำเสนอในหนังสือพิมพ์ดังกล่าว
ภายหลังการเบิกความ นายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาเป็นพยานให้กับนายอภิสิทธิ์
ซึ่งทั้งตนและนายอภิสิทธิ์ถูกนายจตุพรกล่าวหาว่าร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ.วางแผน ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง โดยตนเบิกความว่า ทั้งหมดที่นายจตุพรกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง บิดเบือนประเด็น ซึ่งปี 2552 ในยุคที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้พยายามแก้ไขปัญหาการชุมนุมอย่างเต็มที่ และสั่งให้เจ้าหน้าที่ไม่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน ดังนั้นที่นายจตุพรพูดจึงเป็นการกล่าวหาเท็จ
ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายจตุพร กล่าวว่า ประเด็นที่นายสุเทพเบิกความนั้น ยอมรับว่าเป็นข้อมูลที่ขัดแย้งกับกลุ่มคนเสื้อแดง
ซึ่งยังไม่มีข้อยุติที่ยังต้องต่อสู้กันด้วยข้อเท็จจริง ส่วนนายจตุพรที่จะต้องมาเบิกความเป็นพยานจำเลยนั้น ยังไม่ได้กำหนดวันว่าจะเดินทางมาเมื่อใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารราชการที่จะใช้สู้คดีที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ โดยฝ่ายจำเลยได้เตรียมพยานบุคคลที่จะเบิกความประมาณ 10-15 ปาก ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รัฐที่เคยทำงานเกี่ยวข้องกับนายอภิสิทธิ์มาก่อน.-สำนักข่าวไทย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
