“นพดล” ยันคลิปเสียง “สมศักดิ์” แค่หวังทำลาย

วันนี้ (5 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

แถลงถึงคลิปเสียงคล้ายนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีเนื้อหาพาดพิงถึง พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาบงการพรรคเพื่อไทยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ปรองดอง ว่า พรรคประชาธิปัตย์นำคลิปนี้มาเปิดเผย เพื่อวัตถุประสงค์การเมือง หวังทำลายความน่าเชื่อถือ พ.ต.ท.ทักษิณว่าเป็นผู้บงการพรรคเพื่อไทย และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแก้รัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งข้อกล่าวหาที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้บงการทุกอย่างในพรรคเพื่อไทยนั้น ขัดกับเนื้อหาในคลิป เพราะเจ้าของเสียงบอกเองว่าสามารถโน้มน้าวให้พรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ปรองดอง ได้ แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่สามารถบงการหรือสั่งการเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือ พ.ร.บ.ปรองดองได้ ดังนั้นยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้สั่งการ หรือบงการทุกเรื่องในพรรคเพื่อไทย และเรื่องนี้จะไม่ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย

“ผมมองว่าเป็นเพียงความเห็นที่แตกต่าง แต่ควรนำมาพูดในพรรคดีกว่าไปพูดนอกพรรค เพราะจะตกเป็นเป้าของฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เคยบอกว่าตัวท่านเปรียบเหมือนเอ็นไซโคลพีเดียหรือสารานุกรมขนาดใหญ่ ใครมีปัญหาอะไรก็โทรมาคุยได้ เรื่องคลิปไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เสียเวลาบ้านเมือง ไร้สาระ พรรคประชาธิปัตย์น่าจะไปมองปัญหาอื่น เช่น เรื่องน้ำท่วม การแก้ไขปัญหาของแพง ไม่ใช่ไม่เอานาซา แต่ยังบ้าเรื่องทักษิณ” นายนพดล กล่าว

นายนพดล กล่าวต่อว่า และโดยส่วนตัวเชื่อว่าเนื้อหาในคลิปจะไม่มีผลต่อการพิจารณาไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน
 
เพราะอำนาจ 3 ฝ่าย คือนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ ต้องคานอำนาจซึ่งกันและกัน ไม่ให้อำนาจใดอำนาจหนึ่งมาอยู่เหนืออีกอำนาจหนึ่ง ถ้าศาลไปแทรกแซงอำนาจอื่น จะทำให้ดุลอำนาจอื่นต้องเสียไป ทั้งนี้ ยังไม่รู้ว่า ศาลจะตัดสินอย่างไร ถ้าตัดสินอย่างถูกต้องก็จะถูกใจ ถ้าตัดสินไม่ถูกต้องก็ไม่ถูกใจ ตอนนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของประเทศไทย ยังหวังว่าศาลจะตัดสินอย่างถูกต้อง ให้กระบวนการประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไป ผลการวินิจฉัยของศาลเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร คงทำนายยากว่าอะไรจะเกิดในบ้านเมือง เป็นเรื่องของประชาชนส่วนใหญ่ ไม่อยากสมมติว่าเราจะแพ้ แต่เมื่อมีคำตัดสินออกมา ทุกฝ่ายคงดำเนินการตามความเหมาะสมในกรอบกฎหมาย แม้ว่าจะแพ้ชนะอย่างไร คิดว่าคนที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามความเหมาะสมตามกรอบกฎหมาย คงไม่ซ้ำเติมบ้านเมือง ส่วนจะมีการออกมาประท้วงหากผลการตัดสินของศาลออกมาในทางลบหรือไม่นั้น ตอบไม่ได้ว่าจะมีการประท้วงขนานใหญ่ หรือจะพร้อมรับโดยดุษฎีหรือไม่

เมื่อถามว่ามีการเตรียมความพร้อมอะไรหรือไม่ หากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญออกมาในทางลบ นายนพดลกล่าวว่า ไม่ได้เตรียมพร้อม ยังหวังในทางที่ดีว่า คำวินิจฉัยจะออกมาในทางถูกต้อง เราไม่ได้ไปรบกับใคร จึงไม่ต้องเตรียมดาบ ยังเชื่อมั่นว่าถ้าความยุติธรรมมี ความสามัคคีจะตามมา ถ้าไม่มีความยุติธรรมความสามัคคีก็ไม่เกิด