5 ก.ค.55 นายเทพไท เสนพงศ์ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงลับของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร์ที่กำลังเผยแพร่อยู่ในขณะนี้ว่า เทปดังกล่าวได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นเสียงของนายสมศักดิ์จริง โดยมีผู้หวังดีนำมามอบให้เผยแพร่ในรายการ “สายล่อฟ้า” แบบไม่มีการตัดทอนใดๆทั้งสิ้น และถ้าหากว่า นายสมศักดิ์ หรือทีมงานจะแก้เกี้ยวโดยการฟ้องดำเนินคดีในเรื้องนี้ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเป็นข้อเท็จจริง ส่วนที่มีข้อสงสัยว่าการพูดดังกล่าวได้เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้หลายวัน ทำไมถึงมาเผยแพร่ในตอนนี้นั้น ตนขอชี้แจงว่าข้อเท็จจริงคือเพิ่งได้รับเทปดังกล่าวในวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วว่าเป็นเทปเสียงของนายสมศักดิ์จริงจึงตัดสินใจเผยแพร่ในตอนกลางคืนวันเดียวกันยืนยัน ไม่ได้หวังผลเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น
"ส่วนที่โฆษกประจำตัวประธานสภาฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะภาคเสธ ว่าไม่สามารถจำเสียงนายสมศักดิ์ได้นั้น ตนเชื่อว่าเป็นแค่การสัมภาษณ์แก้เกี้ยวให้กับนายสมศักดิ์ และการทำหน้าที่ของโฆษกส่วนตัวประธานสภาฯก็ควรจะทบทวนบทบาท เพราะเป็นการพูดสวนทางกับผู้บังคับบัญชา เพราะก่อนหน้านี้นายสมศักดิ์ออกมายอมรับว่า เป็นเสียงของตัวเองจริงแล้ว แต่การที่โฆษกออกมาพูดคนละทางเช่นนี้ ถือว่าเป็นการทำหน้าที่ให้เกิดความสับสนต่อสังคม" นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ตนขอเรียกร้องว่า 1.อยากให้สังคมได้พิจารณาสาระของการพูดของนายสมศักดิ์มากกว่าการตรวจสอบที่มาของคลิปดังกล่าว โดยเฉพาะความเหมาะสมของนายสมศักดิ์ ในฐานะประธานรัฐสภาที่จะต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง แต่กลับแสดงบทบาทเป็นผู้จัดการวางเกม ให้กับพรรคการเมือง จึงทำให้ขาดความน่าเชื่อถือในตำแหน่งประธานรัฐสภา 2.ในคลิปดังกล่าวเป็นการยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปรับรู้และสุมหัวกันวางเกมทางการเมือง ซึ่งยืนยันได้จากคำพูดของนายสมศักดิ์ ลักษณะให้สัมภาษณ์ของนายกฯที่พยายามโยนทุกอย่างให้เป็นเรื่องของสภา
3. เป็นการยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บงการ และเกี่ยวข้อง วางเกม เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและ พรบ.ปรองดอง ทุกขั้นตอน และทุกการเคลื่อนไหวก็มีการรายงานให้ พ .ต.ท.ทักษิณ ทราบตลอดเวลา 4. บุคคลในฝ่ายรัฐบาลได้แสดงบทบาทตีสองหน้าในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญและ พรบ.ปรองดอง ที่มีแนวทางหลอกล่อกลุ่มผู้ต่อต้าน โดยต้องการที่จะถอน พรบ.ดังกล่าวออกไปเพื่อรอจังหวะที่เผลอของผู้ต่อต้านบรรจุเข้ามาใหม่
“ เป็นการแก้ปัญหาทางการเมือง ในลักษณะหลอกลวง และมีวาระซ่อนเร้น ดังนั้นเมื่อสังคมจับได้ไล่ทันเช่นนี้ ก็จะปฏิเสธไม่ได้ เพราะชัดเจนแล้วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ สมรู้ร่วมคิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตามคำยืนยันของนายสมศักดิ์อย่างชัดเจน เหตุนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ควรทำตัวเป็นอีแอบ หลังม่านการเมืองก็ควรที่จะเปิดเผยตัวเองออกมา แสดงภาวะผู้นำทางการเมือง ให้สมกับบทบาทและวุฒิภาวะนายกรัฐมนตรี และเชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เท่านั้น ที่อยู่ในฐานะปลดล็อคทางการเมือง และแก้ปัญหาความขัดแย้ง ในสังคมที่เกิดขึ้นในขณะนี้” นายเทพไท กล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
