ไทม์ วิเคราะห์ แม้ว อ้างเกษียณแล้วแต่ยังไม่คิดปิดฉากจริง

นิตยสารไทม์เวอร์ชั่นเอเชียฉบับใหม่ นำพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นปก พร้อมรายงานการให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ ซึ่งบอกว่าไม่กลับเข้าสู่วงการเมืองแล้ว และกำลังใช้ชีวิตอย่างคนเกษียณอายุที่แสนสุข

อย่างไรก็ตาม ไทม์ชี้ว่า คณะรัฐประหารในไทยยังคงหวั่นไหวต่อ "เงายักษ์" ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และยิ่งเมื่อดูจากท่าทีของอดีตนายกฯเองแล้ว ก็ยิ่งชี้ให้เห็นว่า "ทักษิณกับประเทศไทยยังไม่เสร็จเรื่องที่มีต่อกันหรอก"

ฉบับดังกล่าว ลงวันที่เป็นฉบับ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งตามวิธีปฏิบัติของนิตยสารข่าวที่จะลงวันที่กันล่วงหน้า 1 สัปดาห์แล้ว จึงหมายถึงเล่มที่กำหนดออกต้นสัปดาห์หน้า และปกติควรจะวางจำหน่ายในประเทศไทยวันอังคาร(6) แต่ทางเว็บไซต์ของไทม์ (www.time.com) นำมาเผยแพร่ตั้งแต่วานนี้(2)

ในนิตยสารฉบับนี้จะมีเรื่องราวของพ.ต.ท.ทักษิณ 2 เรื่อง คือ รายงานข่าวจากปก ที่ใช้ชื่อว่า "Thailand: Thaksin´s Giant Shadow" (ประเทศไทย: เงายักษ์ของทักษิณ) เขียนโดย แฮนนาห์ บีช หัวหน้าสำนักงานเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของไทม์

และอีกชิ้นหนึ่งเป็นบทสัมภาษณ์ถามตอบที่ใช้ชื่อว่า Former Thai PM Thaksin: "I´m Calling It Quits" (อดีตนายกฯทักษิณของไทย: ผมขอประกาศล้างมือแล้ว)

พูดถึงการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ระหว่างที่อยู่ในกรุงโตเกียว ซึ่งอดีตนายกฯกล่าวว่า เขากำลังจะตั้งพรรคใหม่ ใช้ชื่อว่า "พรรคสนุกกับชีวิต" โดยนโยบายหลักคือ "เล่นกอล์ฟ, เดินทางท่องเที่ยว, พักผ่อน, พบปะเพื่อนฝูง" "ไม่จริงจังเกินไปกับชีวิต"

ถึงแม้พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่ามีความสุขกับชีวิตหลังถูกรัฐประหาร ทว่า "แค่เพียงเงาของเขา -แม้กระทั่งแสร้งทำเป็นว่าปลดเกษียณแล้วก็ตามที-ก็เพียงพอที่จะสร้างความกระวนกระวายขึ้นในหมู่คณะทหารผู้ปกครองประเทศไทย"

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กำลังพยายามสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองเพื่อสู้กับอำนาจอิทธิพลทักษิณ พร้อมกับยกคำพูดของนายอุกฤษฎ์ ปัทมานันท์ แห่งสถาบันวิจัยเอเชีย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณทำให้ คมช. หัวปั่น และนายอุกฤษฎ์ไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ยุ่งกับการเมืองแล้ว แต่คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงจะกลับมาเมื่อประชาชนเริ่มเห็นว่าผู้นำคนต่อๆ จากเขาประสบความล้มเหลว

หากเขาจะกลับบ้านในท้ายที่สุดแล้ว เขาก็หวังที่จะช่วยเยียวยาประเทศชาติ "ถ้าคุณต้องการให้มีการปรองดองแห่งชาติ มันก็เหมือนกับการปรบมือ" พ.ต.ท.ทักษิณบอก "ถ้าคุณพยายามปรบด้วยมือข้างเดียว และเอามืออีกข้างหนึ่งออกไป มันจะเป็นไปได้หรือ คุณต้องนำเอามืออีกข้างกลับมา ผมเลิกเล่นการเมืองแล้ว ไม่ต้องวิตก แต่ผมต้องการช่วยเหลือเรื่องการปรองดองนี้"

คำพูดเช่นนี้แสดงถึงความรู้สึกที่อบอุ่นและเคลือบคลุม และอันที่จริงช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณเองปกครองประเทศ ก็ใช่ว่าจะไร้ความขัดแย้ง จากนั้นไทม์ก็ยกตัวอย่างทั้ง กรณีการใช้ความรุนแรงจัดการกับปัญหาภาคใต้, การฆ่าตัดตอนผู้คนกว่า 2,000 คนในสงครามปราบยาเสพติด, การขายชินคอร์ปโดยไม่เสียภาษีเลย,และกรณีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

สำหรับเวลานี้ซึ่งรัฐบาลชั่วคราวของไทยกำลังก้าวสะดุดล้มไม่หยุดหย่อน พ.ต.ท.ทักษิณก็ดูพอใจที่จะเล่นบทบาทของผู้เกษียณอายุที่มีความสุข

"ทว่าถึงแม้การประกาศยืนยันซ้ำๆ ของเขาที่ว่าเขาจะอำลาจากวงการเมือง ว่าครอบครัวของเขาต้องการตัวเขา, ว่าความเชื่อแบบชาวพุทธของเขากำลังขับดันทำให้เขาค้นหาความสงบภายใน แต่บรรยากาศในห้องชุดอันเพริศแพร้ว (ที่โรงแรมอิมพีเรียล กรุงโตเกียว) ของเขา ก็เป็นบรรยากาศแห่งการคาดหมาย ไม่ใช่การยุติปิดฉาก พ.ต.ท.ทักษิณกับประเทศไทยจึงยังไม่เสร็จเรื่องที่มีต่อกันหรอก"

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์