มาร์คเชื่อแม้วอยู่เบื้องหลังเคลื่อนไหวการเมือง หลังคลิปขุนค้อนหลุด

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงยังปราศรัยกดดันศาลรัฐธรรมนูญ ในการพิจารณาคดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ว่า ไม่ควรมีการกดดัน เพราะอยากให้ตุลาการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ขอให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินของศาล ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีกระบวนการที่จะหาข้อยุติตามความถูกต้อง

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในส่วนกรณีมีการปล่อยคลิปเสียงเหมือนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาว่า

แสดงให้เห็นถึงบทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ยังอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวทางการเมือง และมีอิทธิพลในการทำงานของ ส.ส.และรัฐบาล และยังเห็นได้ชัดว่าการพูดจายังวนอยู่กับผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่ายังมีคนที่ยอมรับว่าการพยายามผลักดันเรื่องนี้จะนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้ง

เมื่อถามว่า ถ้าเป็นเสียงของนายสมศักดิ์จริง พรรคประชาธิปัตย์จะทำงานร่วมกับนายสมศักดิ์ได้หรือไม่

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าต้องไปถามนายสมศักดิ์ก่อนว่าพูดจริงหรือไม่ และหมายความว่าอะไร แต่ก็ยืนยันว่าประธานสภามีหน้าที่เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติต้องทำตัวเป็นกลาง ซึ่งกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์เคยทำเรื่องยื่นถอดถอนนายสมศักดิ์ออกจากการเป็น ส.ส.ไปแล้ว ส่วนจะนำคลิปนี้ไปเป็นหลักฐานในคดีนี้หรือไม่คงต้องให้ผู้เกี่ยวข้องดูต่อไป

เมื่อถามว่า ตอนนี้คนในรัฐบาลมองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัวของนายสมศักดิ์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า
 
สุดท้ายต้องพิสูจน์ด้วยการทำหน้าที่ และถ้านายสมศักดิ์ยืนยันชัดเจนว่า ไม่เอาเรื่องที่เป็นปัญหากับบ้านเมืองเข้ามา ก็ขอให้ดำเนินการอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ตนรู้สึกว่ารัฐบาลไม่ค่อยกังวลหรือรู้สึกอะไรในเรื่องนี้ เพราะคนในรัฐบาลบางคนก็พูดชัดว่าเขาก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณและหลายครั้งคนในพรรคเพื่อไทยก็ข่มขู่ประธานสภาว่าต้องทำตามมติพรรค จึงอยู่ที่ว่าสังคมจะยอมรับการบริหารแบบนี้หรือไม่ จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้เรื่อยๆ หรืออย่างไร

"ผมขอเรียกร้องว่า คนที่ได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชน ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ ต้องแยกผลประโยชน์ของตนเอง ของพรรคพวก คือของคนที่ตัวเองมีความผูกพันให้ออกจากผลประโยชน์ส่วนรวม" นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า การบริหารของรัฐบาลครบ 1 ปี เห็นได้ชัดว่านโยบายส่วนรวมคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ยังเดินไปได้ช้า ขาดความชัดเจนในอนาคตของประเทศและสูญเสียโอกาสมาหลายเรื่องแต่รัฐบาลยังคงวนเวียนอยู่กับผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถือว่าเป็นปีที่สูญเปล่าไปถ้าหากไม่มีการตั้งหลักใหม่ในการขับเคลื่อนไปสู่อนาคตประเทศ