ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.วันที่ 4 กรกฎาคม นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก "Oak Panthongtae Shinawatra" เป็นการเหน็บแนมพรรคประชาธิปัตย์ กรณีตอบโต้นายพานทองแท้ เรื่องนาซา รวมถึงกล่าวหา ตนเองว่า เป็นอีแอบทางเฟซบุ๊ก ซึ่งตนจะไม่ตอบโต้ด้วยการใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย โดยมีข้อความดังต่อไปนี้
"ถึงจะแพ้ในสาระ ขอกูชนะด้วยโวหาร"
เป็นคำนิยาม ที่ผมมองพรรคประชาธิปัตย์ ในยุค "นาซาโกโฮม" นี้ครับ
ก็ลองอ่านดูสิ่งที่พรรคปชป.โต้ในสิ่งที่ผมตั้งข้อสังเกตดูสิครับว่า มีสาระอะไรมั่ง
ผมโปรโมทเวปให้ ปชป. ด้วยเลยก็ได้ลองเข้าไปดูใน Official website ของปชป.เลยตามลิ๊งค์นี้ครับ http://www.democrat.or.th/th/news-activity/news/detail.php?ELEMENT_ID=12257&SECTION_ID=29
ข้อมูลที่ผมโพสต์เรื่องนาซาก่อนหน้านี้ ก็เนื่องจากผมเผอิญไปเห็นข้อมูลอีก2ข้อ ที่มันวางอยู่จะจะ อยู่ในหน้าเดียวกันกับข้อมูลที่ ปชป.หยิบมาโจมตีรัฐบาลนี้ ซึ่งเป็นโครงการที่วางแผนการบิน ไว้ตั้งแต่สมัยอภิสิทธิ์ฯเป็นนายกฯ(เมื่อ18,19 ก.ค.54) ว่าจะเอาเครื่องบินER-2 (ที่ปชป.ยืนยันว่าเป็นเครื่องบินสอดแนม) มาบินในอาณาเขตประเทศไทย ตามลิ๊งค์นี้ครับ http://espo.nasa.gov/missions/seac4rs/search/node/Thailand
ผมก็แค่บอกว่า ทำไมถึงพูดแต่ข้อเดียว ทำไมอีก2ข้อในสมัยพรรคปชป.จึงไม่พูด และผมก็ใช้คำว่า "ตั้งข้อสังเกต4ข้อ" แทนที่จะใช้คำว่า "ตั้งคำถาม4ข้อ" เพราะผมรู้ว่าท่านตอบไม่ได้ เดี๋ยวจะพาลมาด่าพ่อล่อแม่ผมอีก และผมก็ไม่ได้ต้องการบีบบังคับให้ท่านตอบด้วยครับ เพราะยิ่งท่านตอบไม่ได้หรือท่านยิ่งทำให้มันคลุมเครือเท่าไหร่ พี่น้องประชาชนก็จะยิ่งรู้ข้อเท็จจริงมากขึ้นว่า "ใครเล่นการเมือง โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์บ้านเมือง"
เดี๋ยวนี้มีการใช้สำนวนโวหาร ประเภทหยาบๆคายๆถี่ขึ้นเรื่อยๆครับ ล่าสุดมีการบัญญัติศัพท์ "อีแอบหน้าคอมพ์" แทนคนที่ใช้เฟสบุ๊ค
คนใช้เฟสบุ๊คมีเป็นล้านคน แฟนเพจผมก็มีหลายหมื่นคน พูดแบบนี้ไม่สวยครับ ผมและแฟนเพจของผมได้ตกลงกันไว้แล้วว่า ผมจะไม่ตอบโต้แบบหยาบๆคายๆกับผู้ใด
โดยผมจะใช้ทฤษฎี "หมากัด ด่าเจ้าของหมา" มาใช้แทนอย่างเคร่งครัด โดยทฤษฎีนี้ อุปมาอุปมัยเหมือนกับมีใครแอบอบยู่ข้างหลัง แล้วปล่อยสุนัขมากัดผมอยู่เรื่อยๆ
ต่อให้ส่งมาอีกสัก10ตัวจะเป็นสุนัขตัวผู้หรือสุนัขตัวเมีย ก็กัดผมไม่เข้าหรอกครับ และผมก็จะไม่กัดตอบด้วย ผมก็อยู่หน้าจอคอมพ์ผม พูดคุยกับแฟนเพจของผมต่อไปนี่แหละ
ยังจำเหตุการณ์ที่มีคนเสนอให้บล็อคเฟสบุ๊คไม่ให้คนไทยทั้งประเทศใช้ได้มั๊ยครับ ในที่สุดก็ต้องลนลานออกมาแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ นั่นคือตัวอย่างอิทธิพลของโซเชียลเน็ตเวิร์คครับ
ผมว่าเลิกเถอะครับโต้กันด้วยคำพวกนี้ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ครับ
ถ้าไม่เลิกก็ตามใจ เพราะผมแค่เป็นห่วงว่า เกิดคนไทยที่ใช้เฟสบุ๊คเขาเคืองขึ้นมา แล้วพร้อมใจกันตั้งฉายาให้ใครที่เขาคิดว่าแอบสั่งอยู่ข้างหลังว่า "อีแอบหลังหมา"บ้าง เดี๋ยวจะพาลมาเสนอให้บล๊อคเฟสบุ๊คทั้งประเทศอีก ผมว่ามันจะได้ไม่คุ้มเสียนะครับ"
ภายหลังจากนานพานทองแท้โพสต์ข้อความดังกล่าวไป ได้มีบรรดาแฟนเพจเข้ามากดไลค์ (ถูกใจ) และแสดงความคิดเห็น รวมถึงกดเผยแพร่ว่งต่อเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน หลังจากเสร็จสิ้น งานครบรอบ 3 ปี สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมวอยซ์ทีวี แล้ว นายพานทองแท้ ได้โพสต์ข้อความ แจ้งบรรดาแฟนเพจว่า ตัวเอง ได้ตัดสินใจครั้งแรกในการเล่น Instagram หลังคนรอบข้างต่างติดโซเชี่ยลมีเดียประเภทนี้กันอย่างงอมแงมจึงอยากเป็นวัยรุ่นบ้าง พร้อมกับโชว์ชื่อ หน้าโปรไฟล์อินสตาแกรมให้บรรดาแฟนเพจ เข้าไปติดตามได้ ในชื่อ @oak_ptt