“ก่อแก้ว”ซัด“สมคิด”ใฝ่เผด็จการ-ทำธรรมศาสตร์ตกต่ำ

วันนี้ ( 2 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช.

แถลงถึงกรณี ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ออกมาระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สามารถแก้ได้ทั้งฉบับ ว่า ขอยืนยันการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ได้แก้ทั้งฉบับ เพราะได้ยกหมวด 2 เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในรัฐธรรมนูญ 50 เอาไว้ และ ศ.ดร.สมคิด เป็นเลขานุการกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550  และได้ยกร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวมากับมือ ที่ผ่านมาการแสดงความเห็นทางวิชาการของ ศ.ดร.สมคิด มีแนวคิดฝักใฝ่เผด็จการ และทำเพื่อป้องกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว จึงไม่แปลกใจว่า มธ.ได้รับการยกย่องว่าสร้างนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เคยเกรียงไกรในยุค อาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์ แต่วันนี้จิตวิญญาณประชาธิปไตยกลับหายไปไหน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมโจมตีเหมารวมทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งที่ควรระบุไปที่ตัวนายสมคิด เพียงคนเดียว

นายก่อแก้ว กล่าวว่า ตนไม่ได้กล่าวหาไปที่ตัวมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ต้องการสะท้อนไปที่ตัวนายสมคิด เพื่อให้ปรับปรุงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้กลับมายิ่งใหญ่อย่างเช่นในอดีต เพราะขณะนี้สังคมรู้สึกเช่นนั้น อย่างไรก็ตามขอร้องว่าตนไม่ได้โจมตี และอย่าโยงไปกระทบกับมหาวิทยาลัย

นายก่อแก้ว กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ที่ออกมาสอดรับกันของฝ่ายที่ต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ

เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาทางลบต่อรัฐสภา รัฐบาลชุดนี้ พรรคเพื่อไทย และตัวเองในฐานะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ หากเป็นเช่นนั้น จะมีการยื่นถอดถอน ส.ส.ที่ลงมติรับหลักการ ตลอดจนกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และการถอดถอนคณะรัฐมนตรี แม้พรรคเพื่อไทยจะไม่ถูกยุบ แต่เมื่อการถอดถอน ส.ส.ของพรรคได้สำเร็จ เปียบเสมือนกับพรรคถูกยุบ

“หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและตอบสังคมได้ ก็ไม่มีปัญหา แต่หากตอบไม่ได้บิดเบือนกฎหมาย ก็น่าจะยุ่ง เพราะสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ไม่มีใครกลัวใคร และจะนำไปสู่ความแตกหักของทั้งสองฝ่าย หากแตกหัก ประเทศไทยก็จะพังทั้งประเทศ ” นายก่อแก้ว กล่าวและว่า การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ผ่านไปด้วยดี ไม่มีลำเอียง ทีมแพ้ไม่ขอให้กรรมการเป่านกหวีดช่วยตัวเอง และ 4 ปีข้างหน้าค่อยปรับปรุงทีมมาแข่งกันใหม่ เทียบกับการเมืองไทย ที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นสีฟ้า แพ้พรรคเพื่อไทยสีแดงมาตลอด และไม่เคยคิดจะปรับปรุงทีม โดยเฉพาะกัปตันทีม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อแพ้เรียกกรรมการมาช่วย ดังนั้น จึงเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ปรับปรุงทีม โดยให้เปลี่ยนตัวนายอภิสิทธิ์ ที่ทำทีมแพ้ทุกครั้ง รวมถึงผู้บริหาร นโยบายและการดำเนินกิจกรรมของพรรค แต่หากไม่เปลี่ยนต้องขอขอบคุณ เพราะจะทำให้เหนื่อยน้อยลง.