พันธมิตรฯขยายแนวต้านทักษิณทั่วกรุง-เริ่มดีเดย์อังคารนี้

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 มีนาคม 2549 23:20 น.

พันธมิตรฯเริ่มเคลื่อนขบวนจรยุทธขยายแนวต้าน "ทักษิณ" ทั่วกรุง ทั้งถนนสีลม สถานีรถไฟสามเสน สถานที่ราชการที่รับใช้ทรราช เช่น กระทรวงการคลังและกรมประชาสัมพันธ์ เริ่มดีเดย์ตั้งแต่วันอังคารที่ 21 มี.ค.นี้เป็นต้นไป แฉวันนี้ "ชิดชัย" พยายามประกาศภาวะฉุกเฉินสลายม็อบไล่ แต่ไม่มีใครเอาด้วย

วันนี้( 18 มี.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชน เปิดเผยภายหลังการประชุมนัดพิเศษแกนนำพันธมิตรฯว่า จะมีการเคลื่อนไหวแบบจรยุทธคือการเปิดแนวรบเพิ่มเติมคือในวันอังคารนี้(21 มี.ค.) เวลา 9.00 น.ทางแกนนำพันธมิตรฯจะนัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ร.6 สวนลุมพินีเพื่อเชิญชวนประชาชนให้เดินไปรณรงค์ชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถ.สีลมทั้งสายโดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมหลายนพันคน ส่วนในวันพฤหัส (23 มี.ค.) เวลา 9.00น.ทางพันธมิตรฯจะนัดเจอที่หน้าสถานีรถไฟสามเสนและเคลื่อนขบวนไปที่กระทรวงการคลังเพื่อให้กำลังใจกับข้าราชการที่ทำงานอย่างสุจริตและตำหนิข้าราชการระดับสูงและข้าราชการการเมืองที่ทำงานให้ทักษิณและพวกพ้อง หลังจากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปที่กรมประชาสัมพันธ์เพื่อประณามในฐานะที่กรมประชาสัมพันธ์เป็นปากกระบอกเสียงที่รายงานข่าวเท็จให้กับประชาชนมาตลอด 5 ปี การเคลื่อนไหวทั้ง 2 ครั้งนี้แกนนำทั้ง 5 คนของพันธมิตรฯจะร่วมเคลื่อนขบวนไปพร้อมกับประชาชนด้วย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีความพยายามจะประกาศภาวะฉุกเฉิน นายสนธิกล่าวว่า พล.ต.อ.ชิดขัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรมได้พยายามจะประกาศภาวะฉุกเฉินมาแล้ว 2-3 ครั้งรวมถึงวันนี้ด้วยแต่หน่วยงานหลายหน่วยไม่เห็นด้วย หลังจากนี้อาจจะมีความพยายามอีกที่เขาอาจจะใช้หน่วยงานที่เขาไว้ใจได้ ซึ่งหากจะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินจริงๆและหากจะมีการจับกุมแกนนำพันธมิตรเราก็จะยินยอมให้จับแต่สำหรับประชาชนก็คงจะแล้วแต่

ผู้สื่อข่าวถามถึงความเห็นเกี่ยวกับรัฐบาลพระราชทานของพันธมิตร นายสนธิกล่าวว่าทางพันธมิตรฯยังไม่ได้คุยถึงประเด็นนี้ ณ ตอนนี้ข้อเรียกร้องของเรายังอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องออกไป

ส่วนกรณีที่จะมีการสลายการชุมนุมนายสนธิกล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่จะใช้สิทธิ์อะไรมาสลาย เพราะอาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายตามมาตรา 157 ได้เพราะในกรณีของม็อบอีแต๋นที่สวนจตุจักร เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการจัดการแต่อย่างใด หากจะมีการสลายแสดงว่าเจ้าหน้าที่ใช้ 2 มาตราฐาน และเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการทำร้ายรองประธานสหภาพแรงงานกฟภ.และหัวหน้ารักษาความปลอดภัยที่ชุมนุม นายสนธิกล่าวว่าจากการพูดคุยเชื่อว่าการกระทำในครั้งนี้เป็นฝีมือมาจากคนกเฬวกเลวกราด ในรัฐบาล ส่วนตนเองก็เคยเกือบจะถูกเล่นงานหลายครั้งแต่เพราะว่าตนมีคนห้อมล้อมอยู่หลายสิบคนเวลาเดินทางไปไหนก็มีรถนักข่าวและทีวี รถปิกอัพตามไปด้วยหากจะทำร้ายก็คงไม่ง่าย ถึงวันนี้แล้วหากจะตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมืองในยุคสมัยที่มีนายกฯเป็นกุ๊ยเราก็ต้องทำใจ