“อภิสิทธิ์” ปัดขวางนาซ่าใช้อู่ตะเภา

“อภิสิทธิ์” ปัดขวางนาซ่าใช้อู่ตะเภา

วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

กล่าวถึงกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ  ระบุสถานทูตสหรัฐฯจะขอถอนตัว หากรัฐบาลไทยไม่สามารถพิจารณาหาข้อยุติได้ทันวันที่ 26 มิ.ย. กรณีที่นาซ่า ขอใช้สนามบินอู่ตะเภาในโครงการตรวจสอบการก่อตัวของเมฆในชั้นบรรยากาศ ว่า หากนายสุรพงษ์ ต้องการให้ทุกอย่างราบรื่น และให้โครงการผ่านโดยเร็ว ก็ควรเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะถ้าไม่โปร่งใส จะสร้างความหวาดระแวงให้เกิดขึ้นแก่คนในประเทศ และนอกประเทศ ที่น่าห่วงคือ ที่ผ่านมาทั้งรมว.ต่างประเทศ รมว.วิทยาศาสตร์ รมว.กลาโหม และนายกรัฐมนตรี ชี้แจงข้อมูลแต่ละครั้งไม่ตรงกัน และพยายามทำให้เป็นประเด็นทางการเมือง

เมื่อถามว่าล่าสุด นายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ออกมายอมรับว่าพ.ต.ท.ทักษิณ

มีเจตนาจะเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นสัญลักษณ์เชิงการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทราบอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่เรื่องของอังกฤษ หรืออเมริกา ก็เป็นความปรารถนา ว่าอยากให้เป็นสัญลักษณ์  ส่วนการออกมาพูดในลักษณะดังกล่าวจะเป็นการเชื่อมโยงกรณีที่นาซ่าขอใช้สนามบินอู่ตะเภาหรือไม่นั้น  ตนคิดว่านี่คือปัญหา ถ้ารัฐบาลไม่ยอมสลัดตัวเองออกมาจากเรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ  ปัญหาความหวาดระแวง และผลประโยชน์ทับซ้อนก็จะมีตลอดเวลา จะเห็นว่ารัฐบาลก้าวไม่พ้นพ.ต.ท.ทักษิณ สักที ส่วนที่พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม บอกว่าคนที่คัดค้านโครงการนี้เป็นพวกไม่รักประเทศไทยนั้น ตนคิดว่า รมว.กลาโหม เป็นคนไม่ฟังใคร เพราะที่ผ่านมาเคยพูดถึงขนาดจะให้กองทัพเลือกข้างทางการเมือง แสดงว่ายังไม่รู้เลยว่าหน้าที่ของกองทัพคืออะไร แล้วจะไปหวังอะไรจากตัวท่าน ถามว่าการให้คนไทยที่เป็นเจ้าของประเทศมีสิทธิที่จะรู้ว่า โครงการดังกล่าวมีผลกระทบต่อประเทศชาติอย่างไร อย่างนี้เขาไม่รักชาติตรงไหน หรือการรักชาติต้องเลือกข้างไปอยู่ในพรรคการเมือง และได้ดิบได้ดี นั่นหรือคือการรักชาติ

ด้าน น.ส.มัลลิลา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า

ขอเรียกร้องให้นายกฯตอบคำถามให้ได้ว่า ทราบเรื่องแผนที่ของนาซ่าที่จะเข้ามาทำประโยชน์ในประเทศไทยหรือไม่ เพราะจากภาพถ่ายมีการลากยาวตั้งแต่จ.เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา จนถึงภาคตะวันออกสู่อ่าวไทยของไทย และยังคาบเกี่ยวไปถึงประเทศกัมพูชาและสิงคโปร์ด้วย โดยไม่ระบุถึงภาคใต้ของไทยเลย ทั้ง ๆ ที่อ้างว่ามาวิจัยเรื่องสภาวะอากาศ ซึ่งพื้นที่เหล่านั้นเป็นที่รู้กันว่ามีแหล่งพลังงานมหาศาล และนายกฯทราบหรือไม่ว่ามีบริษัทเชฟร่อนซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ดำเนินกิจการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ เข้าไปดำเนินการด้วย ทั้งนี้จากข่าวพบว่าระหว่างที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปพำนักที่ประเทศสิงคโปร์ ได้เรียกรมต.การค้าสิงคโปร์เข้าพบ ก่อนที่รัฐมนตรีคนดังกล่าวจะมาพบกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยรัฐมนตรีคนดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่ามีโครงการจะเข้ามาดำเนินการด้านพลังงานในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับข่าวที่ว่า บริษัทในเครือชินวัตร ทั้งนายไพโรจน์ เปี่ยมพงศานต์ และนายทนง พิทยะ ที่มีความสนิทสนมกับพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปถือหุ้นในบริษัทเชฟร่อนด้วยหรือไม่ ดังนั้นอยากให้นายกฯชี้แจงให้ชัดเจน..


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์