ผู้นำฝ่ายค้านฯ ตั้งข้อสงสัยการบรรจุระเบียบวาระการประชุมสภา 12-14 มิ.ย.นี้ ไม่มั่นใจจะยัดไส้ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ที่เป็นชนวนความขัดแย้งด้วยหรือไม่ แนะรัฐบาลปิดสมัยประชุม พร้อมเดินหน้าให้ข้อมูลเนื้อหา ต้านกฎหมายฉบับนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมสภาวันที่ 12 – 14 มิ.ย.ว่า
ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะพิจารณาเรื่องอะไร เพราะในการประชุมรัฐสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 12 มิ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาวาระรับทราบกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ซึ่งมีสมาชิกพยายามบอกว่าจะรับทราบเฉย ๆ ไม่ได้ ส่วนการประชุมสภาวันที่ 13-14 มิ.ย. ก็น่าสงสัยในระเบียบวาระที่ไม่มีเรื่องกฎหมายปรองดอง 4 ฉบับ จึงไม่แน่ใจว่าเมื่อเปิดประชุม จะมีความพยายามนำเรื่องนี้เข้ามาพิจารณาหรือไม่
“ผมตั้งใจว่าจะสอบถามไปยังประธานสภาฯ ว่าอาศัยเงื่อนไขอะไรในทางปฏิบัติการออกระเบียบวาระ และถ้ามีการโต้แย้งขึ้นมาจะทำอย่างไร จากบทเรียนที่ผ่านมาประธานสภา คงจะระวังมากขึ้น ประธานสภาสามารถเป็นตัวหยุดชนวนความขัดแย้งได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้า ส.ส.เสียงข้างมากพยายามดำเนินการ ประธานสภาก็คงลำบากที่จะคัดค้าน สุดท้ายการดับชนวนปัญหาที่ดีที่สุดคือการปิดสมัยประชุม ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล การที่นายกฯ เคยบอกว่าเป็นหน้าที่ของสภานั้นไม่ใช่ เพราะขณะนี้รัฐบาลเป็นผู้ขอขยายเวลาการประชุม และมีอำนาจปิดสมัยประชุม ซึ่งหากสอดไส้เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญจะกลายเป็นชนวนความขัดแย้งเพิ่มขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับการที่นายกฯ จะทัวร์นกขมิ้นวันที่ 11-14 มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ และอาจจะมีปัญหาเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองฯ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นไปตามแนวทางของฝ่ายรัฐบาลที่วางกลยุทธ์ไว้ให้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องเกี่ยวพันกับเรื่องดังกล่าว ทั้งที่ความจริงนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่มีอำนาจในการกำหนดหลายอย่าง และเป็นผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับตนเองและครอบครัวค่อนข้างชัดเจน
“การลงพื้นที่ทัวร์ขมิ้นของนายกฯ น่าจะมี ส.ส.ในพื้นที่ร่วมลงพื้นที่เพื่อให้ข้อมูล แต่นายกฯ ก็พยายามให้ ส.ส.มามีปัญหา และความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ในครอบครัวของตัวเอง และตัวเองก็เดินสายไปทำให้เกิดความเข้าใจว่าสภามีปัญหา ขณะที่นายกฯไปทำงาน ปัญหาที่เกิดในสภาไม่ได้เกิดจากพวกเรา แต่เกิดจากรัฐบาลใช้อำนาจในการขยายการประชุมสภาในขณะนี้”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง 4 ฉบับนั้น
คิดว่าเมื่อใดที่ประชาชนรับทราบเนื้อหาทั้งหมดก็คงจะยอมรับกฎหมายเหล่านี้ได้ยาก แต่หากเชื่อตามโพล ก็จะมีประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ที่ทราบเนื้อหาสาระในขณะนี้ จึงเป็นหน้าที่ที่เราต้องช่วยกันเผยแพร่ เราตั้งใจจะทำกิจกรรมต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
