เพื่อแม้ว-ปชป. โต้นัวเนียตัวเลขทรัพย์สิน แม้ว

วันที่ 4 มิ.ย. นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
 
ออกคำแถลงตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์ว่า หลายวันที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์พยายามเดินเกมเสี้ยม พ.ต.ท.ทักษิณ กับกลุ่มเสื้อแดง แยกปลาออกจากน้ำนั้น ไม่มีวันสำเร็จ โดยเสี้ยมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ หลอกเสื้อแดงทั้ง ๆ ที่ในช่วงรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เสื้อแดงถูกฆ่าและบาดเจ็บนับพัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้นำที่มีคนนับล้านเคียดแค้นชิงชัง ยิ่งกว่านั้นพฤติกรรม ดิบ เถื่อน ในสภาของ นักการเมืองก็ทำให้ประชาชนอึ้งทั้งประเทศว่าคนพวกนี้ทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายโดยไม่สนใจเสียงประณามของประชาชน ที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อเอาเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทคืนนั้น ไม่เป็นความจริง รวมถึงไม่ใช่นิรโทษกรรมคดี พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะคดีที่ตรวจสอบโดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) สามารถนำคดีมาเริ่มดำเนินการใหม่ตามหลักนิติธรรมได้

ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังระบุด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ รวยก่อนมาเป็นนักการเมืองแล้ว
 
โดยนิตยสารฟอร์บเคยจัดลำดับว่ารวยเกือบ 7 หมื่นล้านบาทก่อนมาเป็น รมว.การต่างประเทศในปี 2540  ดังนั้นการที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์โจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ รวยเพราะทุจริต จึงเป็นความพยายามบิดเบือนที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง แต่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศก็ไม่เชื่อการใส่ร้ายดังกล่าวตามที่ปรากฏผ่านผลคะแนนเลือกตั้งที่พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้มาตลอด ยิ่งตีประชาชนยิ่งเห็นใจพรรคเพื่อไทย

ด้านนายชวนนท์ อินทร์โกมาลย์สุต โฆษกพรรพคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตามข้อเท็จจริงในปี 2540 พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีเงินไม่ถึง 4 หมื่นล้านบาท
 
เพราะได้ซุกเงินกับคนรอบข้าง ซึ่งอยากบอกประชาชนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนที่ทุจริต ชอบซุกหุ้น และทรัพย์สิน ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่การเมือง ซึ่งก่อนเข้าสู่การเมือง พ.ต.ท.ทักษิณ มีหุ้นกว่า 3 หมื่นล้านบาท แต่พอเข้ามาบริหารประเทศหุ้นก็พุ่งไปถึงกว่า 7.4 หมื่นล้านบาท และเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีก็ใช้อำนาจปั่นหุ้นก่อนที่จะขายทิ้ง ทำให้มีเงินเพิ่มกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท จึงทำให้ถูกยึดทรัพย์ ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต่างจากนักธุรกิจที่คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง และพยายามปั่นหัวคนเสื้อแดงให้ออกมาตายแทน เพื่อจะได้นำเงินและทรัพย์สินของตัวเองกลับคืน และให้ตนเองพ้นผิด ซึ่งตนเห็นว่าต่อให้คนเสื้อแดงตายเป็นแสนคนก็ยังไม่พอ และขณะนี้คิดว่าคนเสื้อแดงน่าจะตาสว่างขึ้น เห็นได้จากการเลือกตั้งท้องถิ่นที่คนเสื้อแดงเทคะนแนให้กับพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก