รมว.คลัง โต้กระแสผลสำรวจตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 50 เข้าสู่ภาวะถดถอย เผยนักลงทุน ตปท.รอเข้าลงทุนไทยอีก 7 หมื่นลบ แม้รัฐบาลจะมีมาตรการ 30% และแก้ กม.ถือหุ้นของต่างด้าว
ปรีดิยาธร โต้กระแสยุค ศก.ถดถอย - โวต่างชาติรอเข้าลงทุน 7 หมื่นล.
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ให้เกียรติปาฐกถาพิเศษ
วันนี้ (31 ม.ค.) ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "ทิศทางการลงทุนปี 2550 และการปรับตัวรับมือค่าเงินบาทผันผวน ในงาานปาฐกถาพิเศษ การลงทุนยุคเศรษฐกิจพอเพียง" โดยมีนาย โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงาน ณ ห้องแกรนดบอลรูม B โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัลลาดพร้าว
จากกระแสข่าวที่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
จะมีมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยปี 50 ย่ำแย่ลง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หลายแห่งปรับลดประมาณการตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีลงอีก 0.50% รวมถึงโพลต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ที่บ่งชี้ถึงการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจไทย ดัชนีการอุปโภคบริโภคที่มีแนวโน้มหดตัว ล่าสุดโพลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนญี่ปุ่นชี้ชัดว่า เศรษฐกิจไทยตกต่ำสุดในกลุ่มชาติอาเซียน ส่งผลให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ เก้าอี้ร้อนขึ้นมาในทันที
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้รับผิดชอบภาพรวมเศรษฐกิจ ได้ออกมากล่าวย้ำอีกครั้งเพื่อเรียกความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย
โดยระบุว่าขณะนี้นักลงทุนต่างชาติยังทยอยเข้าลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่องแม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงใช้มาตรการสำรองเงินทุนนำเข้าระยะสั้นที่ 30% และมีการแก้ไขกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยมีข้อมูลว่าภาคเอกชนต่างประเทศเตรียมจะเข้าลงทุนในไทยอีกไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาทในช่วงต่อจากนี้
สำหรับค่าเงินบาท
ในขณะนี้ถือว่าค่อนข้างนิ่ง แม้ว่ายังอยู่เหนือระดับ 36.00 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้เคลื่อนไหวที่ราว 35.80 บาท/ดอลลาร์ ก็นับว่าดีกว่าที่จะแข็งค่าไปมากกว่านี้
ขอขอบคุณ
ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ