"สวนดุสิตโพลล์" ชี้เหตุป่วนสภาทำคนสิ้นศรัทธา หนุนประธานสภาเลื่อนวาระปรองดอง
“สวนดุสิตโพลล์” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำารวจความคิดเห็นของประชาชน ในหัวข้อ "ความวุ่นวาย กรณี ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองในสายตาประชาชน" โดยสำรวจจากประชาชนในกรุงเทพฯและปรมิณฑลที่ตีดิตามข้อมลูข่าวสารจากสื่อต่างๆ จำนวน 1,134คน ระหว่างวันที่ 1-2 มิถุนายน 2555 โดยเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชน กรณี ความวุ่นวายต่างๆ ในสภา ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นไปบนบัลลังก์ ดึงประธานสภาฯ การแย่งและลากเก้าอี้
ตลอดจนการโยนเอกสารต่างๆในที่ ประชุม โดย 53.75% ระบุว่าคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะ ส.ส.ที่ประชาชน ให้ความไว้วางใจให้มาทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง ประชาชนรู้สึกเบื่อหน่าย เสียความรู้สึกและสิ้นศรัทธาอย่างมาก ขณะที่ 35.71% ระบุว่า ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการถ่ายทอดสด เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับเยาวชน ประธานสภาต้องเด็ดขาด ใช้อำนาจหน้าที่อย่างเหมาะสม และ 10.72% เห็นว่า ควรมีการลงโทษหรือเอาผิดกับ ส.ส.ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างจริงจัง เรียกผู้นำรัฐบาลและฝ่ ายค้านมาตกลงกัน เพื่อหาแนวทางหรือมาตรการป้องกันที่ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคิดเห็นของประชาชนกรณี การชุมนุมประท้วงนอกสภาของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ประชาชนเห็นว่าทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ไม่สงบ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศ การประชุมต้องเลื่อนออกไป 43.24% ขณะที่อันดับ 2 อยากขอร้องผู้ชุมนุมทุกคนให้ใช้สติ เหตุผลมากกว่าการใช้กำลังและใช้อารมณ์ ไม่อยากเห็นคนไทยต้องมาต่อสู้กันเอง 38.74% และอันดับ 3 การชุมนุมสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมา และผู้ที่ทำงานหรือพักอาศัยในบริเวณนั้น 18.02%
สำหรับคำถามถึง ความคิดเห็นของประชาชน กรณี นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ได้แจ้งให้มีการเลื่อนการประชุมร่างพระราชบัญญัติปรองดองออกไป อันดับ 1 เห็นด้วย 71.43% เพราะจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นควรเลื่อนการประชุมออกไปก่อน เพื่อลดความตรึงเครียดของกลุ่มผู้ชุมนุมและหาแนวทางที่เหมาะสม ฯลฯ อันดับ 2 ไมเห็นด้วย 28.57% เพราะ ทำให้การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ต้องล่าช้าออกไปทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ใจ ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ต ารวจเข้ามาดูแล ฯลฯ
ผู้สื่อข่าวถามถึงทางออกที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลายมากกว่านี้ คือ
อันดับ 1 ต้องใช้สติ พูดคุยกันด้วยเหตุผล ใจกว้าง ยอมรับฟังความเห็นผู้อื่น ติดตามข่าวสารข้อเท็จจริงจากหลายๆฝ่าย 46.76% อันดับ 2 ให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านเมือง คำนึงถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ 34.33% อันดับ 3 ควรเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อนและทบทวนอย่างละเอียดรอบคอบ นัดพูดคุยกับแกนนำกลุ่มต่างๆนอกรอบ 18.91%