ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่ากรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนขอเรียกกว่ารายการความเท็จวันนี้ เป็นรายการที่หลอกต้มคนเสื้อแดง เพราะหลายประเด็นที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโฟนอินเข้ามาในงาน ล้วนเป็นการหลอกมวลชน โดยเฉพาะที่พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอิน ว่าถูกอำมาตย์หลอก ถ้าเป็นจริง ตนอยากถามว่าก่อนหน้านี้พ.ต.ท.ทักษิณ มีการตกลงกับอำมาตย์ใช่หรือไม่ หรือให้น้องสาวไปติดสินบนใครว่าจะได้รับประโยชน์อีก เห็นได้จากการโฟนอินในงานที่แยกราชประสงค์ที่บอกว่าให้ลืมเรื่องเก่า ร้องเพลงช่างแม่งมัน แต่พอวันนี้ไม่ได้ตามที่คิดก็เอาวาทกรรมอำมาตย์มาหลอกประชาชนอีก
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวอีกว่าก่อนมาเล่นการเมืองมีเงิน 64,000 ล้านบาท เรื่องนี้ก็โกหกเพราะขณะนั้นปี 2537 ตอนนั้นยังไม่มีกฎหมายให้แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แต่ต่อมาปี 2540 สมัยพ้นจากตำแหน่งในรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มีการแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.ว่ามีแค่ 5,927 ล้านบาท ถ้าเป็นจริงแสดงว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ซุกเงินมาตั้งแต่ช่วงนั้น ต่อมาปี 2544 ช่วงเริ่มรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ 1 มีการแสดงบัญชีทรัพย์สินแค่ 509ล้านบาท ปี 2548 มีแค่ 506 ล้านบาท ปี 2549 แสดงบัญชีทรัพย์สินช่วงพ้นตำแหน่ง 2 ช่วง มีแค่ 512 และ 557 ล้านบาท ถามว่าที่อ้างว่ามี 64,000 ล้านบาท มาจากไหนนี่แสดงว่ามีการซุกเงินมานานแล้ว ประเด็นสำคัญคือเงิน 46,000 ล้านบาท เป็นการยึดคืนในสมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
“นี่คือใบเสร็จการซุกเงินที่เปิดเผยจากปากพ.ต.ท.ทักษิณ พอเห็นว่าจะไม่ได้กฎหมายปรองดอง ไม่ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญก็เอาวาทกรรมมาหลอกมวลชน ” นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยรับคำร้องให้ตรวจสอบการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กลุ่มเสื้อแดงก็ออกมาบอกว่าจะมีทหารไปจับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นากยรัฐมนตรี จะมีการยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตนขอท้าว่าหากนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยจะฟ้องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้ไปฟ้องเลย แต่ถ้าศาลฟ้องกลับก็อย่าหนีก็แล้วกัน ทั้งหมดเป็นการเอาประชาชนมาเป็นเครื่องมือต่อรองเมื่อไม่ได้ตามที่ตัวเองต้องการ
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า กรณีร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯ ที่ปลุกมวลชนออกมาตายแทน เพื่อออกกฎหมาย ตนสงสารคนเสื้อแดง อยากให้คนเสื้อแดงตาสว่างขอให้คนเสื้อแดงอย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร ส่วนการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาพูดว่ายังไม่เห็นกฎหมายปรองดองเป็นคำพูดที่น่าเอน็จอนาถ ที่มวลชนออกมาต่อสู้เพื่อคัดค้านกฎหมายฉบับนี้แต่คนที่ไม่รู้เรื่องคือนายกรัฐมนตรี ตนเห็นว่าถ้านายกรัฐมนตรีไม่พร้อมควรทำบุญให้ประเทศด้วยการลาออกจากตำแหน่งจะดีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณอย่าทำลายคนไทยด้วยการส่งคนแบบนี้มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกเลย
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า กรณีผลสำรวจเอแบคโพลล์ที่ระบุว่าประชาชนร้อยละ 92 ไม่ทราบรายละเอียดของร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยปรองดองแห่งชาติ โดยร้อยละ 66 ไม่มีความหวังว่าร่างกฎหมายจะนำไปสู่ความสงบสุข ร้อยละ 89 อยากให้บ้านเมืองแก้ปัญหาปากท้องก่อนเรื่องพ.ร.บ.ปรองดอง นอกจากนี้ร้อยละ 80 ยังเห็นว่าการออกกฎหมายนี้นักการเมืองจะได้ประโยชน์ ถ้านายกรัฐมนตรีอ่านภาษาไทยออกควรขอพระราชกฤษฏีกาปิดสมัยประชุมสภาเสียหรือถอนกฎหมายออกไป