รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
ได้ยื่นใบลาออกจากราชการแล้ว มีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมาโดยไม่แจ้งเหตุผล เป็นการลาออกก่อนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จะมีมติชี้ขาดคดีนายสุพจน์ร่ำรวยผิดปกติและแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ในเวลา 13.00น. วันที่ 24 พฤษภาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุป.ป.ช.สอบสวนนายสุพจน์ฐานร่ำรวยผิดปกตินั้น
สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายบุกปล้นบ้านนายสุพจน์ เลขที่ 77 ซอยลาดพร้าว 64 แยก 2 เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เมื่อค่ำวันที่ 12พฤศจิกายน 2554 ขณะที่นายสุพจน์กำลังร่วมในงานแต่งงานของลูกสาวที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนเพลินจิต
ต่อมาเจ้าหน้าที่สอบสวนพบคนร้ายงัดตู้เสื้อผ้าในห้องนายสุพจน์และขนเงินสดหลบหนีไปเป็นมูลค่านับร้อยล้านบาท
เจ้าหน้าที่ติดตามจับตัวคนร้ายได้6คนพร้อมเงินของกลางราว 18ล้านบาท ในชั้นสอบสวนคนร้ายรับสารภาพปล้นมาจากบ้านนายสุพจน์แต่ให้การปฎิเสธในภายหลังและยังมีคนร้ายหลบหนีอยู่ขนเงินของกลางอีกจำนวนมากไปด้วย ส่วนนายสุพจน์อ้างว่า เงินสดที่หายไปมีเพียง 5ล้านบาทเท่านั้น
จากนั้นป.ป.ช. ติดตามสอบสวนนายสุพจน์พร้อมกับอายัดบ้านและที่ดินของนายสุพจน์ หลังตรวจพบว่า
นายสุพจน์โอนให้กับบุตรชาย ไปเมื่อวันที่ 15มกราคมและวันที่19 มกราคม ขณะเดียวกันตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนายสุพจน์ฐานร่ำรวยผิดปกติและแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ คณะอนุกรรมการฯได้ชี้ขาดไปแล้วเมื่อวันที่ 10พฤษภาคมจากนั้นส่งผลพิจารณาให้คณะกรรมการฯลงมติในวันที่ 24พฤษภาคมที่่จะถึงนี้
ด้านพล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)
เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดการติดตามตัว นายโก้ หรือ วีระศักดิ์ เชื่อลี หัวหน้าแก๊งคนร้ายบุกปล้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ว่า ขณะนี้ได้มีการประสานงานทุกส่วน โดยทางนครบาลจะเป็นกำลังหลัก ร่วมกับทางตำรวจภูธรภาค 4 และทางการลาว โดยเชื่อมั่นว่า นายโก้ ยังคงกบดานอยู่ในประเทศลาวจริง โดยยังคงส่งกำลังลงพื้นที่ติดตามตัว ส่วนการติดตามผู้ต้องหาอีก 2 คนคือ นายพงษ์ศักดิ์ หรือ เจี๊ยบ นามวงศ์ และนายคำนวณ หรือ นวน เมฆน้อย ผู้ร่วมขบวนการนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังติดตามตัวเช่นกัน โดยทาง บก.สส. กก.สส.บก.น.4 และฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาง ร่วมกันติดตามตัวอยู่