เปิดใจ สุกำพล ปิดแผลเก่า กองทัพ เหตุสลายชุมนุมแดงกลางแยกราชประสงค์ ครบรอบ 2 ปี

จบไปแล้วสำหรับกิจกรรมเพื่อรำลึกเหตุการณ์สลายการชุมนุมครบรอบ 2 ปี เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 จนเต็มพื้นที่ ของกลุ่มคนเสื้อแดง บริเวณแยกราชประสงค์


แน่นอนว่า กิจกรรมดังกล่าว ย่อมได้รับความสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะชาวต่างชาติ


เช่นเดียวกับกลุ่มทางการเมืองต่างๆ ที่คอยจับตาเป็นพิเศษว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะวีดีโอลิ้งค์มายังพี่น้องกลุ่มคนเสื้อแดงว่าเช่นไร


แต่ต้องไม่ลืมว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ หรือเหตุการณ์ดังกล่าวยังมีกลิ่นอาย "กองทัพ" อยู่ด้วย


ตั้งแต่การยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 ไปจนถึงสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553


ต่อกรณีดังกล่าว พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดใจคุยกับ "มติชน" ถึงบทบาทของกองทัพ ในฐานะผู้ที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่าง "รัฐบาล" และ "กองทัพ" โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงว่า วันนี้กองทัพต้องวางตัวเป็นกลาง แต่อย่าลืมว่าทหารคือเครื่องมือของรัฐบาล ถ้าสั่งมาแล้วถูกต้องก็ต้องทำ ดังนั้นรัฐบาลก็ต้องเรียนรู้ตรงนี้ด้วยในฐานะที่ดูทหารอยู่ เมื่อสั่งเขาก็ต้องรู้ว่าคำสั่งต้องถูกต้อง ไม่อย่างนั้นทหารคงไม่ไปเกี่ยวข้อง ตำรวจเองก็ต้องพัฒนาตัวเองให้เข้มแข็งมากขึ้น อย่างทางภาคใต้ตำรวจไม่ไหว เราก็ไปช่วย แล้วเราก็ทำ แล้วเราก็ตายกันทุกวัน เราก็ช่วยแก้ไขแบบค่อยๆ ดูกันไป

ส่วนในโอกาสครบรอบ 2 ปี การสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า "ไม่พูดดีที่สุด" เพราะถ้าพูดแล้วก็จะมีคนเอไปขยายความ เดี๋ยวเสียหมด (หัวเราะ) เพียงแต่ว่า เราต้องนิ่งๆ ปล่อยๆ บ้าง อดทน เพราะการแสดงท่าทีนั้นมันก็ต้องจริงใจด้วย เพื่อให้สังคมได้เห็น ไม่ใช่ลับหลังทำอีกอย่าง ก็ไม่ถูกต้อง ก็ต้องดูสักหน่อยว่าใครเป็นอย่างไร


ขณะที่เหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง เรื่องการดูแลผู้สูญเสีย ผู้เสียหายและความคืบหน้าคดียังไม่มีความชัดเจน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่า การดูแลถามว่าทำไหม...ก็ทำ มีกติกาชัดเจน แต่ว่าต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง มันก็เป็นเรื่องตามกติกาที่วางไว้ เพราะยังไม่จบกระบวนการ ยังไม่เคลียร์


เปิดใจ สุกำพล ปิดแผลเก่า กองทัพ เหตุสลายชุมนุมแดงกลางแยกราชประสงค์ ครบรอบ 2 ปี

เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่ายิ่งนิ่งยิ่งกลายเป็นเป้าด้วยหรือเปล่าหรือไม่นั้น "ก็ไม่นะ" พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวและว่า

กองทัพก็ไม่ได้ถูกว่าอะไร เพียงแต่เรื่องนี้มันเป็นแผลเก่า ส่วนแผลใหม่ตอนนี้ยังไม่มี เราก็มีจุดดีหลายอย่าง เช่น ตอนน้ำท่วมเราก็ทำ การฟื้นฟูต่างๆ เรื่องทางใต้เราก็ทำ ในส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับกองทัพก็มีการสอบสวนอยู่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็ส่งหนังสือมาถึงผมว่าขอหลักฐาน หลายๆอย่างก็ให้เขาไป ในเรื่องการสั่งการมีอะไรบ้าง เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย เราก็ดำเนินการอยู่ไม่ใช่ไม่ดำเนินการเลย


ขณะที่การขยายแนวร่วมของกลุ่มคนเสื้อแดง แล้วจะส่งผลต่อบรรยากาศต่างๆ นั้น เรื่องอย่างนี้มี 2 ด้าน บางคนมองว่าไม่ดี บางคนก็มองว่าดี มันคาดยาก ฉะนั้น ผมว่าถ้าเขาทำแล้วถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกต้องก็ปล่อยเขาไป อย่าไปสนใจก็จบกันไป ถ้าคนไม่เห็นด้วยตลอดเวลาก็ไม่เห็นด้วยตลอดเวลา ก็ต้องแยก


"ผมว่าเสื้อแดงเขาสามัคคีนะ เขากล้าตั้งหมู่บ้านแดง เขาก็ทำได้ เห็นว่ามีเรื่องป้องกันยาเสพติด การต่อต้านเรื่องต่างๆ เรื่องการเมืองจะเชื่ออย่างไรก็เรื่องของเขา เราจะไปขวางทำไม ถ้าเขาทำหมู่บ้านมาเพื่อทำอะไรไม่ดีซิ ค่อยไปว่าเขา"


อย่างไรก็ตาม ก่อนจบการสนทนา พล.อ.อ.สุกำพล ทิ้งท้ายว่า
 
"วันนี้ต้องมองถึงประโยชน์ของประเทศชาติและบ้านเมืองเป็นหลัก หากไม่เห็นต่อประเทศชาติแล้ว มัวเห็นแต่ความแค้นเคืองส่วนตัวก็จะไม่มีอะไรดีขึ้น วันนี้สิ่งแวดล้อมของประเทศกำลังดีมาก ขาดแต่เรื่องความสามัคคีของคนในชาติเท่านั้น อุณหภูมิก็พร้อมแล้ว เหลือก็แต่คนที่ยังไม่พร้อม เพราะยังมีปัญหากันอยู่ ดังนั้นจึงควรมองภาพใหญ่ และเงยหน้ามองไปไกลๆ กันบ้าง อย่ามองแค่นี้"


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์