นายกฯ พร้อมให้ความร่วมมือด้านอาหาร-สินค้าเกษตร ก่อนพบคนไทยที่บาห์เรน

เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (14พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ณ โรงแรม Ritz Carlton อาณาจักรบาห์เรน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า

ได้รับการต้อนรับจากคณะรัฐบาลบาห์เรนอย่างอบอุ่นและประทับใจ ด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทำให้คณะรัฐบาลไทยได้รับพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำจากสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน เป็นที่ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณยิ่ง

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวยืนยันถึงการเดินทางมาเยือนในครั้งนี้ว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
 
เพราะบาห์เรนต้องการมีความมั่นคงทางด้านอาหาร ดังนั้นนอกจากจะส่งสินค้ามาขายยังบาห์เรนได้แล้ว ยังสามารถใช้บาห์เรนเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าไปยังกลุ่มประเทศตะวันอออกกลางได้อีก โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร ประเภทข้าว ผลไม้ และไก่แช่แข็งซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรส่งออกสินค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอาหารฮาลาล แต่ทั้งนี้ ในระดับนโยบายจะต้องมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งในปลายปีนี้จะมีการจัดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในระดับผู้ปฏิบัติ เพื่อร่วมกันเร่งรัดและแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่ออีกว่า ประเทศบาห์เรนให้ความสนใจเรื่องพลังงานทดแทน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน ต้องการประหยัดพลังงาน
 
เพราะที่ผ่านมาได้สูญเสียพลังงานในเรื่องของความร้อนค่อนข้างสูง ถือเป็นโอกาสที่ไทยจะได้สานต่อความร่วมมือต่อไปในอนาคต จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้พบปะกับชุมชนชาวไทยในบาห์เรน ณ ห้อง Alnoor โรงแรม Ritz Carton โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับประชาชนว่า รู้สึกดีใจที่ได้พบกับคนไทยที่อาศัยที่ในประเทศบาห์เรน และฝากให้คนไทยรักษาเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะรอยยิ้ม ที่ต่างชาติชื่นชอบซึ่งเปรียบเสมือนทูตที่ดีของประเทศไทย

สำหรับเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทยที่ผ่านมา รัฐบาลได้เร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนหลังเกิดวิกฤติอุทกภัย
 
ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ อยู่ในภาวะปกติ และรัฐบาลจะป้องกันไม่ให้เกิดอุทกภัยซ้ำอีก ซึ่งหากคนไทยในบาห์เรนมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือให้แจ้งมายังสถานทูตทันที และหากยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ รัฐบาลพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศอย่างเต็มที่ จากนั้นชาวไทยในบาห์เรนได้มอบดอกไม้ และร่วมถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นกันเอง