กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ แถลงความคืบหน้ากรณีคดีความผิดความมั่นคงแห่งรัฐ หรือความผิดตามมาตรา 112 ว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นใน 2 คดี คือคดีนายจตุพร พรหมพันธุ์ กับพวก กล่าวปราศรัยเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนได้ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการและมีความเห็นร่วมกันสมควรสั่งไม่ฟ้องนายจตุพรกับพวก
"ด้วยเหตุผลคือการสอบสวนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งคำกล่าวในการปราศรัยไม่เข้าข่ายความผิดมาตรา 112 ขณะนี้ดีเอสไอได้ส่งสำนวนให้อัยการและอยู่ในดุลพินิจของอัยการว่าจะพิจารณาอย่างไร คดีดังกล่าวอัยการสามารถมีความเห็นได้หลายแนวทางคือ 1.สั่งไม่ฟ้องตามความเห็นของพนักงาน 2.สั่งฟ้องและสั่งให้มีการสอบสวนพยานเพิ่มเติม" นายธาริตกล่าว
อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า สำหรับคดีแผนผังล้มเจ้า มีผู้ถูกกล่าวหาตามผังทั้งหมด 39 คน
การสอบสวนคดีนี้ดีเอสไอได้ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นพยานเพื่ออธิบายถึงขั้นตอนการจัดทำผังและความเชื่อมโยงของบุคคลทั้งหมด แต่ปรากฏว่าไม่มีพยานยืนยันการกระทำผิดชัดเจน พนักงานสอบสวนดีเอสไอและพนักงานอัยการที่ร่วมสอบคดีนี้ มีความเห็นร่วมกันให้งดการสอบสวน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่พบการกระทำความผิด จึงส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเห็นชอบต่อไป การงดสอบไม่ได้หมายความว่า ไม่พบการกระทำความผิด แต่ยังสามารถนำคดีดังกล่าวมาดำเนินการสอบสวนในภายหน้าได้
นายธาริตกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐตามผังของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ว่า
ดีเอสไอได้แยกการดำเนินคดีเฉพาะตัวบุคคล 23 ราย มีทั้งที่เห็นควรสั่งฟ้องและสั่งไม่ฟ้องส่งให้กับพนักงานอัยการพิจารณา ส่วนคดีตามผังของ ศอฉ. ที่มีผู้ที่เกี่ยวข้อง 39 รายนั้น จากการสอบสวนโดยเฉพาะการให้ปากคำของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในฐานะพยานการจัดทำผังและจากการสอบสวนไม่พบว่ามีพยานยืนยันการกระทำความผิด พนักงานสอบสวนจึงได้ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการมีความเห็นงดการสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสำนวนคดีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายจตุพร ความผิดฐานหมิ่นประมาทเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ได้เสนอพนักงานอัยการไปตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม ขณะที่ความเห็นยุติการสอบสวนคดีผังล้มเจ้าที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)รวบรวมไว้ ได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนรู้สึกข้องใจในดุลพินิจ 2 ประการ คือ 1. เนื้อหาที่มีการปราศรัย มีความไม่เหมาะสม 2.การแถลงข่าวสั่งไม่ฟ้องนั้นสอดรับกับคำพูดของแกนนำเสื้อแดงก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องที่น่ากังขา และคงต้องไปสอบถามกับนายธาริต ว่าเป็นเพราะอะไร แต่คนที่ใช้ดุลพินิจในเรื่องนี้ต้องรับผิดชอบ
ดีเอสไอไม่พบความผิด ยุติผังล้มเจ้า ตู่เฮรอดคดีหมิ่นเบื้องสูง ธาริตชี้ไม่เข้าข่าย112
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ดีเอสไอไม่พบความผิด ยุติผังล้มเจ้า ตู่เฮรอดคดีหมิ่นเบื้องสูง ธาริตชี้ไม่เข้าข่าย112