ดอนเมืองข่มสุวรรณภูมิ ลงทุนเพิ่มดีกว่าดันทุรัง

เผยข้อเปรียบเทียบจุดต่อจุด ของสนามบินดอนเมืองเหนือกว่าสุวรรณภูมิทุกมิติ ทั้งประหยัดงบประมาณหากต้องขยายรองรับผู้โดยสารเพิ่ม ขณะที่ในแง่ ศักยภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกดีกว่าพร้อมกว่าทุกด้าน คนการท่าฯ แฉทุจริตคอร์รัปชั่นตั้งแต่เริ่มโครงการจนสิ้นโครงการ ย้ำมีอีกหลายโครงการเนื้อร้ายยังไม่โผล่ ขณะที่สวนดุสิต โพล เผยความคิดเห็นประชาชนร้อยละ 48.6 ชี้ทุจริตคอร์รัปชั่น ร้อยละ 72.78 ยอมรับเสียความรู้สึกจากปัญหาโกงกินเมื่อเปรียบเทียบกับการเปิดใช้ที่ประชาสัมพันธ์อย่างยิ่งใหญ่ ด้านต่างชาติตอกย้ำคอร์รัปชันต้นเหตุ

หน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องกับสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อหาข้อยุติในการใช้ประโยชน์สนามบินดอนเมือง หลังจากการปิดซ่อมแซมสนามบินสุวรรณภูมิส่งผลกระทบต่อการขึ้น-ลงของเครื่องบินและผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวกต้องไปใช้สนามบินอู่ตะเภาดังที่เกิดขึ้นเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ นับแต่สนามบินสุวรรณภูมิเปิดใช้เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2549 ในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิอณ ชินวัตร สนามบินที่ถูกประชาสัมพันธ์ว่าเป็นความภูมิใจของคนไทยแห่งนี้ก็มีปัญหามาอย่างต่อเนื่องทั้งที่เพิ่งเปิดใช้ไม่นาน

มาวันนี้สนามบินต้องดำเนินการซ่อมแซมทางขับหรือแท็กซี่เวย์และทางขึ้น-ลงหรือรันเวย์ ไม่นับรวมหลุมจอด งวงช้าง (ดูกราฟฟิกประกอบ) ที่ใช้การไม่ได้ และ การอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกจิปาถะ การเรียกร้องให้ปิดสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อซ่อมแซมครั้งใหญ่ โดยทบทวนการกลับไปเปิดใช้สนามบินดอนเมืองใหม่จนกว่าการแก้ไขปัญหาจะแล้วเสร็จนั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ไม่ว่าผลการประชุมของกระทรวงคมนาคมจะออกมาอย่างไร โดยหากตัดสินใจใช้สนามบินสุวรรณต่อไป ในรูปแบบบินไปซ่อมแซมกันไป คำถามคือ การใช้เงินงบประมาณที่จะซ่อมแซมนั้นจะบานปลายไปแค่ไหน อย่างไร? เพราะเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะใช้ 1,500 ล้านบาทนั้นไม่น่าจะเพียงพอแล้ว ประการสำคัญ ไม่มีใครรับประกันได้จะไม่มีปัญหาอีกเพราะทุกอย่างในสนามบินสุวรรณภูมิเข้าขั้นวิบัติไปทุกส่วนแล้ว

ใน มุมกลับกันหากรัฐบาลหันมาใช้ประโยชน์จากดอนเมือง ผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินว่า เพื่อให้รองรับผู้โดยสารมากขึ้นเป็น 60 ล้านคนต่อปี ก็อาจจะต้องใช้เงินทุนเพิ่มประมาณ 50,000 ล้านแบ่งเป็น สร้างรันเวย์เพิ่มเติม 10,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการย้ายกองทัพอากาศไปที่ยังต่างจังหวัด 40,000 ล้านบาท

นอกจากนี้หากมองในแง่ศักยภาพ และ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆเช่น รันเวย์ ดอนเมืองนั้นมี 2 รันเวย์เท่ากับสุวรรณภูมิในปัจจุบันแต่แตกต่างกันที่ดอนเมืองไม่มีปัญหาร้าว หรือ ทรุดเช่นที่สุวรรณภูมิซึ่งตรวจพบแล้ว 2 จุด

แท็กซี่เวย์ของดอนเมืองปกติ ขณะที่ของสุวรรณภูมิ ยกตัวเป็นลูกคลื่นเป็นช่วงๆและมีรอยแตกยาวประมาณ 100 เมตร บริเวณ E4-E8 รันเวย์ฝั่งตะวันตกซึ่งมีร่องยาวเกือบ 150 เมตรลึกประมาณ 33 เซนติเมตร

แหล่งข่าวจากการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวยอมรับว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในการสร้างสนามบินสุวรรณภูมินั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่เริ่มโครงการสนามบินสุวรรณภูมิจนถึงการก่อสร้างเสร็จ และต้องยอมรับว่ามีนักการเมืองและผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม เป็นตัวการใหญ่ที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง จับมือกับข้าราชการประจำผู้ทรงอิทธิผลอยู่ในกระทรวง ออกใบสั่งให้คนในปฏิบัติการกินแล้วผ่องถ่ายสู่มือผู้มีอำนาจ ซึ่งเป็นการจัดสรรกันอย่างสมประโยชน์ทั่วหน้า

"คาดกันอยู่แล้วว่าสภาพปัญหาของสนามบินสุวรรณภูมิจะต้องปรากฏให้เห็นชัดเจน แต่ไม่คาดว่าจะมีผลเร็วขนาดนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากโครงสร้างและขั้นตอนการถมทรายที่มีการทุจริตและใช้วัสดุไม่มีคุณภาพ ทำให้มีการทรุดตัวของรันเวย์และแท็กซี่เวย์ ซึ่งถ้ามีการสอบสวนหาคนผิดก็คงหนีไม่พ้นข้าราชการที่รับผิดชอบแต่ไม่สามารถสาวถึงนักการเมืองได้เลย"แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว

นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นภายในสนามบินสุวรรณภูมิที่ต้องรีบปรับปรุงแต่ตอนนี้ยังไม่มีการดำเนินการอย่างไรเลย เพราะทุกคนต่างให้ความสำคัญกับเรื่องรันเวย์แตกร้าว ทำให้โครงการอื่น ๆ ชะงักหมด เช่น การแก้ปัญหาเครื่องซีทีเอ็กซ์

ซึ่งตอนนี้ก็ไม่สามารถใช้การได้หมดทุกตัว เพราะมีปัญหาเครื่องของความชื้น ซึ่งตอนนี้เทคนิคก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ นี่ก็เป็นการจัดซื้อที่สูญเปล่าเพียงแต่การจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์มาจำนวนมาเพื่อหวังคอมมิชั่นในการจัดซื้อแต่ไม่สามารถใช้การได้

แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าวต่อไปว่าปัญหาของสุวรรณภูมินั้นจะค่อย ๆ โผล่ออกมาเรื่อย ๆ และมาทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงที่นายกทักษิณ ชินวัตร เข้ามาบริหาร เป็นช่วงที่สนามบินกำลังก่อสร้างและนายกทักษิณ ได้เข้าไปมอบนโยบายและมีการสั่งการให้เร่งดำเนินการและต่อรองราคาค่าก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิให้ลดลง เพื่อโชว์ว่าเป็นผลงานของรัฐบาลในการผลักดันสนามบินสุวรรณภูมิให้แล้วเสร็จ แต่ปัญหาก็ประทุขึ้นมาให้เห็น ซึ่งรัฐบาลยุคทักษิณ จะต้องเข้าไปตรวจสอบแต่กลับปล่อยปละละเลยจนเกิดปัญหาในการก่อสร้าง

ที่ผ่านมามีเครือญาติของนักการเมืองเข้ามาหาผลประโยชน์ในโครงการต่าง ๆ ภายในสนามบิน และต้องมีการจ่ายผลประโยชน์เพื่อให้ได้งานประมูลภายในสนามบิน ทุกโครงการในพื้นที่สุวรรณภูมิที่ว่าเปิดประมูลที่เรียกว่าโปร่งใสนั้นยอมรับว่ามีการล็อบบี้และวิ่งเต้นเพื่อล็อกสเปคไว้ทุกโครงการ

ซึ่ง"น่าจะมีการตรวจสอบอีกหลายโครงการเช่น การจัดซื้ออุปกรณ์ติดเรดาร์ของวิทยุการบิน รถเข็นกระเป๋าในสุวรรณภูมิ ล้วนแต่มีการล็อกสเปคมาว่าจะให้บริษัทใดได้เป็นผู้ชนะในการประมูล"แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่าคนที่ได้รับประโยชน์จากการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยนั้นส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้เขาไม่อยู่กันแล้ว จะมีพวกที่เป็นร่างทรงของกลุ่มผู้ได้ประโยชน์เข้ามาบริหารและจัดการผลประโยชน์เพื่อสานต่อโครงการ และในที่สุดก็โยนบาปให้เจ้าหน้าที่ของการท่าฯ ในที่สุด

สวนดุสิต โพล เปิดเผยสำรวจความคิดเห็นประชาชนและผู้ใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยประชาชนร้อยละ 48.6 เห็นว่ากรณีข่าวการซ่อมแซมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาจากสาเหตุการทุจริตคอร์รัปชั่น ขณะที่ประชาชนถึงร้อยละ 72.78 ยอมรับเสียความรู้สึกจากปัญหาโกงกินเมื่อเปรียบเทียบกับการเปิดใช้ที่ประชาสัมพันธ์อย่างยิ่งใหญ่

สวนดุสิต โพล สำรวจความเห็นประชาชนและผู้ใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 1,286 คน ระหว่างวันที่ 25-28 มกราคมที่ผ่านมา ในหัวข้อ สนามบินสุวรรณภูมิ ณ วันนี้ ในสายตาประชาชน โดยข่าวการซ่อมแซมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ประชาชนร้อยละ 48.06 เห็นว่ามาจากการทุจริตคอร์รัปชั่น ความไม่โปร่งใส และโกงกินทุกกระบวนการ รองลงมาร้อยละ 24.49 เห็นว่าทำให้ประเทศเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ในสายตาต่างชาติ ร้อยละ 16.49 เห็นว่าทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้ท่าอากาศยาน และร้อยละ 8.01 สูญเสียความภูมิใจในการเป็นท่าอากาศยานที่ยิ่งใหญ่

ส่วนคำถามเปรียบเทียบความรู้สึกของประชาชนเมื่อครั้งเปิดท่าอากาศยานเปรียบเทียบกับข่าววันนี้ พบว่าประชาชนร้อยละ 72.78 เสียความรู้สึก เพราะปัญหามาจากการทุจริตที่ใหญ่โตและขอให้เร่งสืบสวนด่วน ทั้งที่ผ่านมามีการประชาสัมพันธ์ในช่วงเปิดใช้อย่างใหญ่โต รองลงมาประชาชนร้อยละ 24.11 ระบุค่อนข้างเสียความรู้สึก ร้อยละ 1.71 เฉย ๆ และร้อยละ 1.4 ไม่เสียความรู้สึก

สำหรับคำถามว่าทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประชาชนร้อยละ 50.54 เห็นว่าต้องเร่งตรวจสอบทุจริตเอาคนผิดมาลงโทษ ร้อยละ 37.25 เห็นว่าต้องเร่งสำรวจแก้ไขซ่อมแซมโดยด่วน

ร้อยละ 7.93 ระบุต้องแก้ปัญหาจากข้อเท็จจริงและไม่ให้การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ร้อยละ 2.41 เห็นว่าทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ปัญหา อย่าคิดเพียงจับผิด และสุดท้ายร้อยละ 1.87 ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระมัดระวังผลกระทบด้านการท่องเที่ยวและการแข่งขันกับท่าอากาศยานคู่แข่งโดยเฉพาะสิงคโปร์

ขณะที่สิ่งที่ประชาชนอยากฝากถึงสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร้อยละ 39.11 ประชาชนขอให้สื่อมวลชนช่วยตีแผ่ข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ร้อยละ 31.18 เห็นว่าไม่ควรนำเรื่องการเมือง การโจมตี มารวมกับข่าวท่าอากาศยาน

ร้อยละ 22.01 ให้ระวังผลกระทบด้านท่องเที่ยวและการแข่งขันธุรกิจการบิน ร้อยละ 4.3 ขอให้สื่อมวลชนเกาะติดข่าวอย่างสม่ำเสมอจนได้ข้อเท็จจริง และร้อยละ 3.27 สื่อมวลชนควรเสนอแนวทางแก้ไขในข่าวที่นำเสนอสู่ประชาชนด้วย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานกระแสข่าวรันเวย์ร้าวและการทุจริตที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยระบุพวกนักวิเคราะห์มองว่า การโหมโจมตีเรื่องนี้น่าจะเป็นแผนเพื่อมุ่งดิสเครดิตพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ที่เอเอฟพียกมาอ้าง ต่างก็ชี้เช่นกันว่า ความบกพร่องร้ายแรงของท่าอากาศยานนี้เป็นเรื่องจริง

"เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณผลักดันสนามบินแห่งนี้อย่างแข็งขันเหลือเกิน ... มันก็เป็นเรื่องเยี่ยมมากสำหรับคณะทหารที่จะบอกว่า ดูสิ นั่นมันเป็นเพียงการประชาสัมพันธ์(ของพ.ต.ท.ทักษิณ)เท่านั้นเอง" เอเอฟพีอ้างคำพูดของนายไมเคิล เนลสัน อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

"มันเป็นเรื่องเยี่ยมเลยที่จะโชว์ให้โลกเห็นว่า ความจริงแล้ว เบื้องหลังฉาก มันก็เป็นเรื่องลัทธิพวกพ้องบริวารและการทุจริตคอร์รัปชั่นทั้งนั้นเลย" เขากล่าวต่อ

"ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้พวกเขายังไม่สามารถตอกตะปูตรึงเขาในเรื่องที่หนักแน่นเป็นรูปธรรมใดๆ เลย" นายเนลสันบอก

ขณะที่นายฐิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ อีกผู้หนึ่ง ก็เห็นด้วยว่า การตอกย้ำเรื่องสุวรรณภูมิ จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเสียหน้า เนื่องจากเป็นโครงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณทุ่มเทมุ่งหมายจะเป็นผลงานชิ้นเอกของตัวเอง

ทว่านายฐิตินันท์ก็เห็นว่า ปัญหาต่างๆ ของท่าอากาศยานแห่งนี้ซึ่งมีการเปิดเผยออกมานั้น เป็นเรื่องจริง

"ไม่มีใครปฏิเสธเลย มีปัญหาร้ายแรงในการก่อสร้างแน่ๆ ... ผมไม่คิดว่าคณะทหารกำลังขุดคุยเรื่องนี้ขึ้นมาเพียงเพื่อดิสเครดิตพ.ต.ท.ทักษิณหรอก"

สำหรับนายสุพงษ์ ลิ้มธนากุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งให้สอบสวนเรื่องรันเวย์ร้าว บอกว่า การสอบสวนของคณะกรรมการจะเปิดเผยให้เห็นว่า เกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ

"เราพบแล้วว่ามีวัสดุจำนวนมากที่ใช้ในการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน และนั่นเป็นสาเหตุทำให้รันเวย์ร้าว" นายสุพงษ์กล่าว

"มีหลักฐานหนักแน่นที่จะพิสูจน์การทุจริตคอร์รัปชั่นที่สุวรรณภูมิ ไม่ใช่เป็นเพียงข้อกล่าวหาที่มาจากแรงจูงใจทางการเมือง" เขายืนยัน

ขณะที่นายฐิตินันท์ชี้ด้วยว่า ความเคลื่อนไหวเพื่อสอบสวนปัญหาของสุวรรณภูมินั้น เป็นส่วนหนึ่งแห่งความพยายามของคณะทหารที่จะแสดงให้เห็นเขี้ยวเล็บของตนเอง ภายหลังถูกกล่าวหาว่าพวกเขาอ่อนเกินไปในการจัดกับการนโยบายต่างๆ ของพ.ต.ท.ทักษิณ

"ในที่สุดหลังจากผ่านไป 4 เดือน คณะทหารก็กำลังเพิ่มความแข็งกร้าวมากขึ้น" เขาบอก.

ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ