ยงยุทธ-กิตติรัตน์กินข้าวโชว์ของไม่แพง

ยงยุทธ-กิตติรัตน์กินข้าวโชว์ของไม่แพง

'ยงยุทธ-กิตติรัตน์'กินข้าวที่โรงอาหารทำเนียบ โชว์ของไม่แพง 'โต้ง' แนะไปสำรวจราคาสินค้าในร้านสะดวกซื้อ โวยหยิบมะนาวราคาแพงที่สุดมาโจมตี ยืนยันยังมีลูกละ 1-2 บาทขายอยู่จริง แจงของบางอย่างราคาถูกกว่าปีที่แล้ว ลั่นไม่ขึ้นภาษี มั่นใจเศรษฐกิจจะดีขึ้น

เมื่อเวลา 13.00 น. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยครอบครัวประกอบด้วยภรรยา ลูกสาวและว่าที่ลูกเขย ที่เดินทางมาชมห้องทำงานของนายยงยุทธที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาลรัฐบาล ได้ลงมาจากห้องทำงานตึกบัญชาการ1 เพื่อมารับประทานอาหารกลางวันร่วมกันแต่นั่งคนละโต๊ะ เนื่องจากโต๊ะของ นายยงยุทธ มี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง ร่วมรับประทานมื้อกลางวันด้วย ทั้งนี้ นายยงยุทธ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า มื้อนี้ทั้ง 2 โต๊ะรวมแล้ว 5 คน ราคาอาหารเพียง 150 บาท โดยมีแกงจืด ปลาทอด ขนมหวาน ข้าวเปล่า น้ำเปล่า นำแข็ง โดยนายยงยุทธระบุว่ามื้อนี้ตนเลี้ยงนายกิตติรัตน์ และพบว่าราคาอาหารก็เท่าเดิมไม่ได้แพงขึ้น

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า เห็นว่ามีสินค้าบางรายการราคาสูงขึ้นกว่า 1-2 เดือนที่แล้ว แต่สินค้าส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับปีที่แล้วถือว่าทรงทรง และเวลาอากาศร้อนมากๆพวกผลไม้ก็จะมีราคาสูง ทั้งนี้สินค้ามีแนวโน้มที่จะลดลง อย่างไรก็ตามสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับสินค้าคือราคาต้นทางจะราคาถูกแล้วมาแพงที่ปลายทาง ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับกระทรวงพาณิชย์ให้ดูแลตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางว่ามีภาวะนั้นไหม แต่หากราคาสินค้าราคาสูงตั้งแต่ต้นทางเราก็ไม่ควรที่จะปฏิเสธความจริง เช่นผัก ผลไม้ช่วงหน้าร้อน ที่มีความเสียหายเยอะในการปลูกซึ่งเกษตรกรเขาก็มีความจำเป็นที่จะขายในราคาที่คุ้มต้นทุน ฉะนั้นแนวที่ทำงานกันอยู่อยากให้กลไกเป็นกลไกสำคัญ

“บางครั้งหยิบบางรายการขึ้นมาอย่างเช่นมะนาว 8 บาท ถ้าไปตลาดจริงๆก็พบว่ามีราคา8บาทจริงๆ แต่มันลูกที่แพงที่สุดเพราะว่ามะนาวลูกละ 1 บาท 2 บาท 4 บาทก็มี และที่พ่อค้าแม่ค้าเขาขายกันทั่วไปเขาก็ใช้ลูกละ 3-4 บาท ส่วนลูกละ 8 บาท ก็เฉพาะคนที่มีกำลังซื้อ ถ้าเป็นผู้บริโภคก็มีจริงการที่หยิบยกพวกนี้ขึ้นมาหวังให้คนที่ไม่จ่ายตลาดเองเขาไปรู้สึกว่าตกใจ คือมะนาว8บาทมันมีมานานแล้วนะครับ ปีที่แล้วแพงแพงเป็นสิบบาทก็มี” นายกิตติรัตน์ กล่าว

นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อว่า จากการสำรวจพบว่าราคาก็อาจจะแพงขึ้นช่วงที่อากาศมันไม่มันร้อนขนาดนี้ แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วก็ทรงทรง คืออันนี้เราเป็นฝ่ายรัฐบาลภาคการเมืองเล่าไปก็จะหาว่าแก้ตัวก็ไปฟังจากเจ้าหน้าที่ก็แล้วกันเพราะเขาไปสำรวจ ไม่ใช่ว่าเราไม่ห่วงใยก็มีหน้าที่ดูแลข้อเท็จจริงสินค้าที่ไม่ใช่ของสดจำนวนมากราคาไม่ได้ขยับจากปีที่แล้ว บางรายการก็ถูกลงด้วยซ้ำ จากรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆถ้ายังไม่มั่นใจผมว่าลองไปสอบถามร้านสะดวกซื้อต่างๆที่เขาจะมีการบันทึกราคาย้อนหลังไปด้วย นี่คือภาคจริงเพาะภาคเอกชนเขาขายจริงๆ

นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อไปว่า นาทีนี้สิ่งที่รัฐบาลยืนยันได้คือจะไม่เพิ่มภาระให้ประชาชนให้เดือดร้อน อาทิเรื่องภาษีไม่มีอยู่ในแผนเลย แต่ยังแปลกใจที่บางท่านบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการขึ้นภาษี ดังนั้นไม่ต้องมาเห็นด้วยเพราะจะไม่ขึ้นอยู่แล้ว และราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งจับตาดูใกล้ชิด รอบที่ขึ้นเยอะๆนั้นรัฐบาลก็ใช้มาตรการต่างๆไม่ให้ราคาขึ้นไปมากและตอนนี้ก็เริ่มอ่อนตัวลงบ้าง

“เชื่อว่าราคาสินค้าจะไม่เป็นปัญหาที่รุนแรงอะไร ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นและจะมีคนไม่น้อยที่มีรายได้ที่ดีขึ้น ต้องจับตาดูกันต่อไป เงินเฟ้อ ของถูกของแพงก็ต้องดูกันต่อไปไม่รู้จบหรอกครับ ก็ยังมีสินค้าเกษตรที่เป็นสินค้าอาหารจากต้นทางที่เขาว่าราคาถูกไปก็อยากให้กระทรวงพาณิชย์ช่วย ก็ต้องเข้าไปดูแล ปลายทางบอกว่าราคาขึ้นมาก็ต้องช่วยดูแล เรื่องนี้ก็ต้องดูแลกันตลอดไม่ใช่ว่าดูแลกันเป็นช่วงช่วง” นายกิตติรัตน์ กล่าว

เมื่อถามถึงราคาเนื้อหมูที่แพงขึ้น รองนายกฯ กล่าวว่า เมื่อวานตนไปเดินตลาดหมูเนื้อแดงก็ราคา 125 บาท/กิโกกรัม ซึ่งปีที่แล้วแพงกว่านี้อีก และราคาหมูเนื้อแดงเมื่อ1-2เดือน ราคาถูกกว่านี้ 115 บาทต่อกิโลกรัม จึงเรียนว่ามันขึ้นๆลง แต่เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเดียวกันตนคิดว่าราคามันทรงทรง

เมื่อถามว่า แล้วอาหารสำเร็จรูป นายกิตติรัตน์ ชี้ไปด้านหลังแล้วบอกว่า ให้ไปถามแม่ค้าเขาสิ เพราะเขาขายเท่าเก่า แล้วจากนั้น รองนายกฯ ก็ลุกออกจากโต๊ะอาหารทันที โดยไม่ทันได้รับประทานน้ำแข็งใสที่วางอยู่ตรงหน้า ขณะที่ นายยงยุทธ ได้ลุกออกไปตั้งแต่ช่วง นายกิตติรัตน์ ให้สัมภาษณ์แล้ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์