“เรืองไกร” ค้าน“เหลิม” แก้กม.ประหารผู้ค้ายาเร็วขึ้น

“เรืองไกร” ร่อนจดหมายเปิดผนึกถึง “นายกฯปู” ค้าน “เหลิม” แก้กม.ประหารผู้ค้ายาเร็วขึ้น ชี้ตัดตอนชั้นฎีกาส่อขัดรธน.

วันนี้ (6 พ.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา กล่าวว่า ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าจะเร่งผลักดันแก้กฎหมายประหารชีวิตนักค้ายาภายใน 15 วัน หาก 2 ศาลพิพากษาตรงกัน ไม่น่าจะชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หมวด 3 ส่วนที่ 4 สิทธิในกระบวนการยุติธรรม มาตรา 39 และมาตรา 40 และอาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 219 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติให้ศาลยุติธรรมมี 3 ชั้น คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังจะแก้ปัญหาด้วยการลุแก่อำนาจ เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ค้ายา แทนการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามนานาประเทศ หรือองค์การนิรโทษกรรมสากลเรียกร้องตลอดมา และอาจเข้าข่ายเป็นการก้าวล่วงบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 191 ที่บัญญัติไว้ว่า “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ”
 

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ถ้ารัฐบาลจะเห็นด้วยกับข้อเสนอที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ยกร่างขึ้นมา เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมโทษประหารชีวิตให้รวดเร็วขึ้น ย่อมถูกมองได้ว่ารัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาไม่ต่างจากรัฐบาลชุดที่แล้ว เรื่องการกระชับพื้นที่โดยใช้กระสุนจริง หากกฎหมายดังกล่าวผ่านรัฐสภา ผู้รับผิดชอบต้องเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ทั้งนี้กรณีดังกล่าวน่าจะเป็นการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. 2550 ที่ตราขึ้นในสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)

โดยมีองค์ประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่ง อีกทั้งกฎหมายฉบับนี้น่าจะอยู่ในรายการกฎหมายทั้ง 191 ฉบับ ที่พรรคเพื่อไทยและคณะกรรมการปรับปรุงและพัฒนากฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน(กปพ.) เคยระบุว่าจะมีการยกเลิกด้วย จึงขอให้นายกฯดำเนินการตรวจสอบผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ และหน่วยงานของรัฐ ที่เสนอแนวทางดังกล่าว ได้พิจารณาข้อดีข้อเสียอย่างรอบคอบ ทั้งทางด้านกฎหมายและศีลธรรมแล้วหรือไม่.