วานนี้ ( 1 พ.ค. ) ที่ทำเนียบรัฐบาล . น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อติดตามภาวะเศรษฐกิจ และหามาตรการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพศิฐ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในตอนต้นก่อนเปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ว่า
วาระพิเศษที่จะขอให้ที่ประชุมช่วยกันหามาตรการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนคือเงินเฟ้อ ที่มีสาเหตุมาจากราคาพลังงานที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหาสินค้า ซึ่งมีปัญหาอยู่ 2 ส่วนคือ วัตถุดิบจากต้นทางที่ราคาถูก ส่งผลให้มีปัญหาต่อราคาขาย ขณะที่เมื่อนำมาผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปหรืออาหารกลับมีราคาที่แพงขึ้น จึงขอให้กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันวิเคราะห์ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางประกอบกันทุกส่วน ดูว่าราคาสินค้าหมวดไหนที่ปรับขึ้นสูง อะไรที่ปรับลดลงแล้วบ้าง เพื่อขอความเห็นจากที่ประชุมในการหาแนวทางแก้ปัญหาและช่วยเหลือประชาชนต่อไป
ขณะที่เลขาธิการ สศช. ได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจในตอนหนึ่งว่า จากตัวในไตรมาสที่ 4 เกิดซัพพลายช็อคในระบบเศรษฐกิจ
เนื่องจากภาวะน้ำท่วม ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อผลผลิตด้านอุตสาหกรรม การส่งออก และระบบโลจิสติกต่าง ๆ รวมทั้งราคาสินค้าหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจติดลบ 9 % อย่างไรก็ตามขณะนี้ตัวเลขการส่งออกเริ่มตีตื้นขึ้นมาโดยลำดับ หลังจากที่เกิดปัญหาซัพพลายช็อคในระบบเศรษฐกิจ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมาจากภาวะน้ำท่วม โดยเห็นได้จากเดือน ม.ค. 55 มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 2 หมื่นล้านบาท ทำให้มีรายได้จากการส่งออกในไตรมาสที่ 1 ถึง 5.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 1 ของปีที่แล้ว ส่วนผลผลิตอุตสาหกรรม ยังติดลบอยู่ เนื่องจากอุตสาหกรรมใหญ่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามคาดว่าในไตรมาสที่ 2 ตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นไป กำลังการผลิตน่าจะดีขึ้น ส่วนนักท่องเที่ยวนั้น ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็ว จะมีเพียงราคาสินค้าการเกษตรที่ยังตกต่ำอยู่ในไตรมาสที่ 1 ซึ่ง ครม.ก็ได้พิจารณาเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือในหลายเรื่อง