ปชป. เตรียมจี้สอบทุจริตคดีกู้ 9000 ล้านกรุงไทย-เอื้อประโยชน์ แม้ว-โอ๊ค

ปชป. เตรียมจี้สอบทุจริตคดีกู้ 9000 ล้านกรุงไทย-เอื้อประโยชน์ แม้ว-โอ๊ค

วันที่ 30 เม.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์

แถลงว่า สำนักโฆษกพรรคกับฝ่ายกฎหมายพรรค กำลังพิจารณาเพื่อทำหนังสือติดตามความคืบหน้าคดีต่างๆที่พรรคได้ยื่นเรื่องไปยังหน่วยงานทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจ โดยในสัปดาห์นี้จะมีการหารือกับฝ่ายกฏหมายแล้วลำดับความสำคัญติดตามตรวจสอบทุกคดีที่ค้างที่ทั้งป.ป.ช. อัยการสูงสุด และดีเอสไอ เช่นคดีทุจริต คดีก่อการร้าย คดีเผากรุงเทพฯ เป็นต้น โดยคดีแรกที่จะดำเนินการคือ สำนวนคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)เคยชี้มูลความผิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ 9,000 ล้านบาทให้บริษัทเอกชน ซึ่งคดีดังกล่าวมีความเกี่ยวพันถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร ที่คตส.พบเส้นทางของเงินปากถุง 17 ล้านบาท ที่ส่งผ่านทางบัญชีธนาคาร ล่าสุดทราบถึงขั้นตอนตั้งคณะทำงานตรวจสำนวนก่อนฟ้องศาลฎีกาฯเท่านั้น

 น.ส.มัลลิกา กล่าวว่า  บุคคลที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามสำนวนที่ปรากฏในชั้นไต่สวนของคตส.มีด้วยกัน 3 กลุ่ม รวม 37 ราย
 
คือ 1. กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ นายพานทองแท้  นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์  2. กลุ่มผู้ปล่อยกู้ คือ คณะกรรมการ (บอร์ด) ธนาคารกรุงไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารเช่น นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย 3.บริษัทเอกชนผู้ขอกู้ 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท อาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเตรียล พาร์จ จำกัด บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบุคคลที่ได้รับประโยชน์จากบริษัทเอกชนดังกล่าว 

  น.ส. มัลลิกา กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และพวกร่วมกันหรือสนับสนุนในการกระทำความผิดทำให้เกิดความเสียหายแก่ธนาคารกรุงไทย

  ผู้ถือหุ้น และประชาชน ซึ่งมีหลักฐานระดับหนึ่งที่เกี่ยวกับการขอกู้เพื่อรีไฟแนนซ์ 4,000 ล้านบาท แต่ธนาคารกรุงไทยกลับอนุมัติวงเงินกู้ให้ถึง 8,000-9,000 ล้านบาท และมีข้อน่าสังเกตว่ามีการออกเช็คถึง 11 ฉบับแทนที่จะออกเช็คฉบับเดียว และยังมีเงินบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยกู้ครั้งนี้โอนเข้าไปในบัญชีสำคัญจนนายพานทองแท้ ถูกคตส.ตั้งข้อกล่าวหาเรื่องรับของโจร ใช่หรือไม่ เรื่องนี้เป็นคดีสำคัญและมีความเสียหายเกิดไปแล้ว การตั้งกรรมการร่วมระหว่างอัยการสูงสุดกับป.ป.ช.ใช้เวลามามากพอสมควรแล้ว การส่งสำนวนขึ้นฟ้องที่ศาลหรือไม่ เป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุดและป.ป.ช.ควรแจ้งให้ประชาชนทราบความคืบหน้าถ้าไม่แถลงก็จะทำหนังสือไปถามอย่างเป็นทางการ


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์