ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุจะหามาตรการในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาของแพงว่า
ความจริงไม่ต้องหามาตรการอะไร เพียงแค่ทบทวนนโยบายของรัฐบาลเท่านั้น ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ราคน้ำมันดิบในตลาดโลกในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่ที่ 110.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ในช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลดลงมาอยู่ที่ 106.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ประชาชนกลับใช้น้ำมันในราคาขายปลีกที่แพง เนื่องจากค่าการตลาดพุ่งสูงขึ้นโดยที่ประชาชนไม่รู้ตัว เมื่อเทียบกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เช่น ค่าการตลาดของแก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นถึง 984.3 เปอร์เซ็นต์ หรือเกือบ 1 พันเปอร์เซ็นต์ แก๊สโซฮอล์ 91 เพิ่มขึ้นถึง 477.42 เปอร์เซ็นต์ เงินค่าการตลาดเหล่านี้จะเข้าบริษัทน้ำมันทันที นี่หรือคือนโยบายรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่บอกว่าจะดูแลประชาชน นอกจากนี้ ยังมีการขึ้นค่าเอฟทีไฟฟ้า 32 สตางค์ต่อหน่วย และลดการใช้ไฟฟ้าฟรีจาก 90 หน่วยเป็น 50 หน่วยอีกด้วย
ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์บริหารราชการแผ่นดินมา 8 เดือนแล้ว ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน อาทิ ค่าไฟฟ้า ค่ารถเมล์และราคาน้ำมัน เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นการโกหกประชาชน ประชาชนคนยากจนคงได้กระอักเลือดด้วยฝีมือนายกฯโคลนนิ่งคนนี้
"ขอฝากสตรอเบอรี่สีแดงฉ่ำไปให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เอาไปรับประทาน เพื่อจะได้ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง มีสติปัญญา หน้าขาวใส ซึ่งผลของสตรอเบอรี่เป็นสีแดงสวย แต่เมื่อกินเข้าไปมีรสเปรี้ยว เมื่อนายกฯมีสุขภาพดีแล้วทบทวนความจำของตัวเองให้ได้แล้ว ขอให้จริงใจต่อประชาชน" น.ส.มัลลิกากล่าว