แม้ว เล่นเกมถนัด สร้างภาพ กับสื่อนอก

ในที่สุด คุณทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องงัดเอาไม้ตายออกมาใช้ และก็ได้ผลในแง่ของการสร้างความฮือฮาข้ามประเทศให้กับคนไทย

เป็นการพิสูจน์อีกครั้งว่า ถ้าพูดถึงเรื่องของการสร้างภาพแล้ว ไม่มีนักการเมืองไทยคนเทียบคุณทักษิณได้

ยิ่งมาคราวนี้ได้ เพื่อนซี้ อย่างสิงคโปร์ คอยช่วยเสริมบทให้ในยามตกยาก ก็เลยได้ภาพที่อยากได้แบบสมใจ

การให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น และสื่ออื่นๆ ทั้งในสิงโปร์และญี่ปุ่น ก็ไม่มีอะไรมากไปว่าการทำให้ตัวเองดูดี วาดภาพให้ตัวเองเป็นเหยื่อทางการเมืองเพื่อเรียกร้องความเห็นอกเห็นใจ

ดูจากคำถามที่ถาม ก็ชัดเจนว่านักข่าวฝรั่งหรือญี่ปุ่นที่สัมภาษณ์ ก็ไม่ได้มีความรู้ลึกซึ้งอะไรเกี่ยวกับการเมืองไทยเลย คุณทักษิณจะตอบอะไร อย่างไร ก็ไม่ซักไซ้ไล่เลียงให้ได้อะไรมากกว่าการแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ

และคุณทักษิณก็คงได้ใจจากความโด่งดังที่สร้างให้กับตัวเอง และรู้ว่านี่จะเป็นทางเดียวที่จะช่วยกลบข่าวผลการสอบสวนเรื่องคอร์รัปชันและผลประโยชน์ทับซ้อน ที่กำลังเริ่มปรากฏผลออกมา และนี่คงเป็นที่มาของการยอมลงทุนควักกระเป๋าจ้างนักล็อบบี้ยิสต์มะกัน

การว่าจ้าง หรือจะอ้างว่าเป็นการ "ไหว้วาน" บริษัทล็อบบี้ยิสต์มะกันของคุณทักษิณ ก็ไม่ได้มีความหมายอื่นใด นอกเสียจากการเอานักวิ่งเต้นและนักสร้างภาพมืออาชีพมาใช้งาน

ล็อบบี้ยิสต์คืออะไร? ล็อบบี้ยิสต์ก็คือ กลุ่มคนที่เชี่ยวชาญในการวิ่งเต้นให้กับบรรดานักการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจและทางการเมืองในสหรัฐ บวกกับการมีเครือข่ายสื่อมวลชนในการสร้างภาพให้กับลูกค้า

และรับรองได้เลยครับว่า ไม่มีนักล็อบบี้ยิสต์คนไหนทำงานให้กับลูกค้าฟรีๆ ยิ่งถ้าเป็นมหาเศรษฐีอย่างคุณทักษิณแล้วละก็ บอกได้เลยครับว่าถูกเรียกเก็บค่าบริการแบบขูดเลือดซิบๆ แน่นอน

และถ้าใครรู้จักคุณทักษิณดี ก็ย่อมรู้ว่าคนแบบนี้ไม่มีทางยอมเสียเงินให้ใครง่ายๆ ถ้าไม่หวังจะได้อะไรกลับคืน

เพราะฉะนั้นก็เชื่อขนมกินได้เลยว่า จากนี้ไปนักการเมืองมะกันจะเริ่มมีความเห็น หรือมีความเคลื่อนไหวในเชิงเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลของท่านนายกฯ สุรยุทธ์ และคณะมนตรีเพื่อความมั่นคงแห่งชาติมากขึ้น

และก็คาดการณ์ได้อีกเหมือนกันว่า สื่อมวลชนมะกันจะมีบทความ หรือข่าวคราวในเชิงลบต่อประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับการแสดงความชื่นชมต่อคุณทักษิณในฐานะอดีตนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง

ถ้าสังเกตดูให้ดี หนังสือพิมพ์และนิตยสารระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศหลายฉบับ เริ่มมีการประสานเสียงในทำนองตำหนิติเตียนการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายต่อการลงทุนจากต่างประเทศ

และก็บังเอิญที่รัฐบาลไทยก็มีอาการซุ่มซ่าม ออกกฎระเบียบกันเงินทุนสำรองร้อยละ 30 ของเงินลงทุนจากนอกประเทศเมื่อไม่นานมานี้ จนทำเอาตลาดหุ้นปั่นป่วนอยู่หลายวัน

บวกกับการแก้กฎหมายธุรกิจต่างด้าว ก็เลยเปิดช่องให้คุณทักษิณใช้เป็นอาวุธทิ่มแทงทั้งรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ และ คมช. ในการให้สัมภาษณ์กับ นสพ.เอเชี่ยน วอลล์สตรีท เจอร์นัล และสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น

บรรดาหนังสือพิมพ์และนิตยสารฝรั่ง ซึ่งทำตัวเป็นปากเสียงให้กับกลุ่มทุนข้ามชาติทั้งหลาย และรอจังหวะอยู่แล้ว ก็สบช่องกระโดดเข้าผสมโรงทันที พากันขยายความราวกับประเทศไทยกำลังจะปิดประตูไล่เงินลงทุนจากต่างประเทศออกจากบ้าน

เท่านั้นยังไม่พอ ยังพร้อมใจกันโจมตีแนวนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง โดยไม่ใส่ใจว่าเนื้อหาที่แท้จริงเป็นอย่างไร?

ถ้ารัฐบาล และ คมช. ไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจกับบทสัมภาษณ์ของคุณทักษิณ ก็ไม่ว่ากัน เพราะชาวบ้านอย่างเราๆ ก็คงไม่ได้คาดหวังอะไรมากอยู่แล้ว

แต่ที่มันเจ็บใจก็คือ ที่คุณทักษิณพูดมาทั้งหมดนั้น มันเหมือนกับต่อว่าคนไทยไปในตัวด้วย

เพราะคุณทักษิณกำลังพยายามบอกประชาคมโลก ว่าคนไทยที่แสนจะ "หน่อมแน้ม" ที่ปล่อยให้รัฐบาลที่ไร้ความสามารถ และทหารที่ได้อำนาจมาโดยมิชอบ ปกครองประเทศอยู่ได้

รัฐบาล และ คมช. อาจทนต่อข้อกล่าวหาแบบนี้ได้ แต่คนไทยไม่ควรทนครับ

โดย เทพชัย หย่อง
จาก เนชั่นสุดสัปดาห์