วันนี้ (22เม.ย.) ที่โรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ เขตบางขุนเทียน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงกรณีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รมว.มหาดไทย ตั้งนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบในการจัดเวทีเสวนาเพื่อนำไปสู่ความปรองดองว่า หากรัฐบาลทำเองอาจจะไม่ได้การยอมรับจากสังคม จึงอยากให้เปิดโอกาสให้องค์กรที่มีความเป็นกลางเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้ พร้อมกับทำรายละเอียดให้ประชาชน เข้าไปมีส่วนร่วมนอกจากนี้รัฐบาลต้องไม่มีธง เพราะหากมีเป้าหมายอยู่แล้วก็ไม่ต้องทำ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยอมรับว่าในสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรีหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเดือนเม.ย. – พ.ค. 2553
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ได้เสนอให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมทุกฝ่ายแต่ตนไม่เห็นด้วย เพราะถ้าดำเนินการจริงจะเกิดปฏิกิริยาจากหลายฝ่ายทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะในภาวะที่ยังมีความเข้าใจไม่ตรงกันว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคืออะไร ซึ่งหากในรัฐบาลที่แล้วบอกว่านิรโทษกรรมทุกฝ่ายรวมทั้งเจ้าหน้าที่ ตนและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็คงเป็นเงื่อนไขที่ไปปลุกระดมกันมากมาย ทั้งนี้ยืนยันว่าสิ่งที่ผู้สูญเสียต้องการคือความจริง และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขอว่าให้ลืม ๆ กันไปเพียงเพราะต้องการให้การนิรโทษกรรมครอบคลุมถึงคดีของคนเองหรือคดีทุจริตเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เพราะควรให้กระบวนการหาข้อเท็จจริงเดินหน้าต่อไป
“กระบวนการสืบสวนของดีเอสไอยังต้องดำเนินการต่อไม่ใช่หยุดเพื่อรอการนิรโทษกรรม และเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต้องค้นหาความจริงเช่น กรณีของพล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่จะอ้างแค่ว่าหาคนผิดยากไม่ได้ ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานตรงไปตรงมาเพราะต้องรับผิดชอบกับอนาคตด้วย การดำเนินการของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ต้องให้ความเป็นธรรม ส่วนกระบวนการปรองดองจะนำไปสู่การให้อภัยหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กรุงเทพ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เปิดดูภาพโป๊ในการประชุมรัฐสภาว่า
พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ตั้งกรรมการสอบสวนอะไรเป็นพิเศษ เพราะต้องปล่อยให้ดำเนินการไปตามกระบวนการ โดยขณะนี้มีการนำเรื่องเข้าสู่กรรมาธิการ (กมธ.)กิจการสภาผู้แทนราษฎร์ ซึ่งถือเป็นองค์กรที่สามารถตรวจสอบได้แล้ว อีกทั้งการให้องค์กรอื่นที่ไม่ใช่พรรคตรวจสอบจะเหมาะสมและโปร่งใสกว่า หรือถ้ามีการส่งไปให้คณะกรรมการจริยธรรมก็เป็นหน้าที่ของรัฐสภา ทั้งนี้นายณัฏฐ์ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือ และตนก็เตือนให้ระมัดระวังให้มากขึ้นไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยพยายามกดดันมาที่ตนนั้นมองว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะควรจะมีการตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่าสิ่งที่กล่าวหานายณัฏฐ์กับข้อชี้แจงเป็นอย่างไร และพรรคเพื่อไทยเองพยายามโยงกรณีของนายณัฏฐ์กับเหตุการณ์ภาพบนจอโทรทัศน์ในสภาเพื่อให้เกิดความสับสน ทั้งที่เป็นคนละเวลากัน.