'ณัฐวุฒิ' ตีมึน ปัดไม่รู้ 'ยิ่งลักษณ์' เตรียมนำครม.เข้ารดน้ำดำหัว 'ป๋าเปรม' 26 เม.ย.นี้ ระบุเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ลังเลร่วมคณะ อ้างขอดูเวลางานก่อน
21 เม.ย.55 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯและแกนนำนปช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำครม.เข้ารดน้ำขอพรสงกรานต์พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ในวันที่ 26 เม.ย.นี้ ว่า ยังไม่ทราบกำหนดการนี้ เพราะยังไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการ คงต้องรอให้นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับมาจากญี่ปุ่นก่อน และตนคงต้องไปดูเรื่องเวลาก่อนว่าหากมีกำหนดการดังกล่าวนี้จริงตนจะมีภารกิจใดหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากได้เข้าพบจะมีสิ่งใดพูดกับพล.อ.เปรม หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า
เราอยู่ในสถานะที่เป็นคนทำงานในรัฐบาล ไม่ได้มีโอกาสสื่อสารกับพล.อ.เปรมโดยตรง และถ้ามีรดน้ำดำหัวก็จะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในรัฐบาลที่จะเข้าไปทำหน้าที่พบปะพูดคุยกัน พล.อ.เปรม ส่วนครม.คนอื่นคงต้องดูว่าในเวลานั้นมีภารกิจเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า ดูตามความจำเป็นแล้วการรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ของบ้านเมืองนั้นก็ไม่น่าจะติดภารกิจอื่น ขนาดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
มาที่ประเทศใกล้เคียงหลายคนก็ยังไม่ติดภารกิจใดๆ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า อยู่ที่ภารกิจหากมีการนัดหมายล่วงหน้าที่ต้องพิจารณาเรื่องการทับซ้อนของเวลาหรือไม่ และเรื่องนี้ตนก็เพิ่งทราบจากสื่อ คงไม่ใช่เรื่องคอคาดบาดตายที่ต้องระบุว่าจะต้องไปหรือไม่ไป อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำรัฐบาลจะนำคณะเข้าไปคารวะผู้ใหญ่ทางการเมืองในสภาวะที่มีการเรียกร้องเรื่องการปรองดองนี้ก็เป็นเรื่องที่ดี
ถามว่า ส่วนตัวยินดีเข้าบ้านสี่เสาใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิ ยังคงบ่ายเบี่ยงว่า อยู่ที่เงื่อนไขเวลาเท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการทำความเข้าใจกับพล.อ.เปรมกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่นปช.ไปชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเพื่อขับไล่พล.อ.เปรมหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จุดยืนที่ประกาศในการต่อสู้ยังคงเดิมทั้งหมดไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนเรื่องใดที่เป็นคดีความอยู่ในศาลก็ว่ากันไปตามนั้น ตนพูดเช่นนี้มาเสมอว่าไม่ใช่เรื่องของนายณัฐวุฒิกับใคร ไม่ใช่เรื่องของพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ และไม่ใช่เรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณกับบุคคลหนึ่งบุคคลใด แต่เป็นความขัดแย้งทางโครงสร้างสังคม เป็นการต่อสู้กันของสองกลุ่มอำนาจเพื่อหาคำตอบสำคัญที่สุดในประเทศคือ ใครควรเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยที่บอกว่าประชาชนทั้งหมดควรเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย กับฝ่ายอำมาตยาธิปไตย ที่บอกว่าควรจะเป็นคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าจะเป็นโอกาสดีของรัฐบาลหรือไม่ที่จะได้พบพล.อ.เปรม เพื่อขอแนวทางเรื่องการปรองดองของชาติ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนเห็นว่ารัฐบาลพยายามสร้างโอกาสดีๆให้ประเทศมาโดยตลอด สัญญาณของการปรองดองที่เกิดขึ้นถือเป็นโอกาสดีของประเทศไทยไม่ใช่สัญญาณแห่งโอกาสของรัฐบาลนี้ เพราะไม่ว่ารัฐบาลใดบริหารประเทศในยามที่มีความขัดแย้งอยู่ก็ไม่ง่ายที่จะขับเคลื่อนนโยบายไปข้างหน้า ดังนั้นรัฐบาลพยายามส่งสัญญาณปรองดองและมีการขานรับจากทุกฝ่ายนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทย ห่วงแค่อย่ามีบางฝ่ายพยายามทำลายโอกาสนั้น