20 เม.ย. 2555 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความห่วงใยกรณีที่ทีดีอาร์ไอ ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่า
การขึ้นค่าแรง 300 บาท จะเป็นการช็อกเศรษฐกิจและรัฐบาลจะต้องพิจารณาว่า จะกระทบธุรกิจในขนาดกลางและขนาดย่อมให้มีต้นทุนสูง และส่งผลให้ราคาสินค้าในประเทศสูงขึ้น อ้างอิงหลายอุตสาหกรรมว่าไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้นได้ว่า ความจริงนายอภิสิทธิ์ แสดงความเห็นสอดคล้องต่อเนื่องกับนายอัมมาร สยามวาลา และนายธีรยุทธ บุญมี ที่เป็นนักวิชาการขาประจำที่แฟนการเมืองคุ้นชินและทราบจุดยืนคนพวกนี้เป็นอย่างดีหลายครั้ง
แต่นับเป็นเรื่องแปลกที่ออกมาวิจารณ์ว่าของแพง แต่กลับคัดค้านการเพิ่มรายได้ของประชาชนที่รัฐบาลนี้พยายามทำ ทั้งการปรับรายได้ให้แก่บุคลากรภาครัฐ ที่จบปริญญาตรีให้มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือน ที่เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2555 การปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วัน นำร่อง 7 จังหวัด มีแรงงานมากกว่า 6 ล้านคน ได้รับประโยชน์ เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน 2555 การประกาศรับจำนำราคาข้าวในราคาที่สูงเป็นประวัติการณ์ 15,000 บาท - 20,000บาท
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า มีคนบ่นตลอดว่าเศรษฐกิจไม่ดี ทั้งที่ในห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก ร้านอาหาร คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ยอดการสั่งซื้อรถยนต์ในงานแสดงรถยนต์กลางปีที่เพิ่มขึ้น ทำไมกลุ่มค้านไม่ไปเอาผลศึกษาของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ที่ออกมาวิเคราะห์ไว้น่าสนใจว่า นโยบายดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้แรงงานมีรายได้เพิ่ม ทำให้มีความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยหรือกำลังซื้อเพิ่ม เกิดการปรับตัวในการใช้ knowledge & skilled-based มากขึ้น โดยภาคธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับการจ้างแรงงานที่มีความรู้และประสบการณ์มากขึ้น เพื่อให้คุ้มค่ากับต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน รวมถึงปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในภาวะขาดแคลนแรงงาน ทั้งในระดับไร้ฝีมือ และมีฝีมือ
ขณะที่อัตราการว่างงานโดยรวม ณ เดือน พ.ค. 2554 อยู่ในระดับ 0.7-0.8% ทำให้มีแนวโน้มที่จะต้องปรับเพิ่มค่าจ้างอยู่แล้วในขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่ามีแรงงานมากกว่า 6 ล้านคน ได้รับประโยชน์ เป็นลูกจ้างรายเดือน 1-2 ล้านคน ลูกจ้างรายวัน 3-4 ล้านคน ในขณะที่ค่าจ้างแรงงานเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ พบว่าไทยค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกับไทย อาทิ สิงคโปร์วันละ 1,830 บาท มาเลเซีย 530 บาท ดังนั้นค่าแรงวันละ 300 บาท จึงไม่ได้แพงอย่างที่พูดกัน และยังไม่มีบริษัทไหนปิดกิจการจากการขึ้นค่าจ้างแรงงานแม้รายเดียว
อนุสรณ์โต้ข้อกล่าวหาของแพง
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!