เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.)
ระบุว่าจะปล่อยให้ ปชป.พูดโดยไม่มีการตอบโต้ ในการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 ว่า ความจริงไม่ได้ตอบโต้อยู่แล้ว สมาชิก ปชป.ทำหน้าที่แปรญัตติ ซึ่งเราอยากให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) สามารถสะท้อนความเห็นทุกกลุ่มของสังคม มากกว่าจะให้ ส.ส.ร.สะท้อนความเห็นเฉพาะเสียงข้างมาก ซึ่งเราจะใช้สิทธิไม่ใช่ประเด็นที่จะมาตอบโต้ แต่คณะกรรมาธิการต้องชี้แจง ที่ผ่านมารัฐบาลมีเป้าหมายที่จะทำงานให้เสร็จเร็วที่สุด จึงชี้แจงน้อยและเร่งให้ผ่านการลงมติ
"หากไม่มีการชี้แจงจะทำให้ ส.ส.ร.เป็นตัวสะท้อนกลุ่มมีอำนาจในปัจจุบัน เพราะทางคณะกรรมาธิการไปเอากฎหมายท้องถิ่นมาใช้ นอกจากนั้น ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกผู้เชี่ยวชาญก็เลือกจากรัฐสภา ซึ่งรัฐบาลมีเสียงจะเกินครึ่งอยู่แล้ว อาศัยเสียง ส.ว.ไม่กี่คนก็สามารถกุมเสียงข้างมากได้ ถ้าปล่อยไปก็เท่ากับเราให้เสียงข้างมากเขียนกติกาตามความเห็นของพรรคการเมืองเสียงข้างมากได้ ซึ่งปกติการเขียนกติกาไม่ควรปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเขียนอยู่แล้ว เราต้องการให้กรรมาธิการฟังเหตุผล ถ้าต้องการให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สร้างความขัดแย้ง ไม่ทำให้ระบอบประชาธิปไตยเสียดุลไป ก็ควรจะฟังเสียงข้างน้อย" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า
อาจจะให้พรรคเล็กหรือคณะกรรมการตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เสนอกฎหมายในการสร้างความปรองดองนั้น ตนไม่ทราบว่าจะออกมาในรูปแบบใด ตนขอย้ำว่าเรื่องการปรองดองไม่มีใครมีปัญหา แต่เรื่องการล้างผิดคนโกงมันจะนำไปสู่ความขัดแย้ง ก็ไม่ควรนำมาปนกัน ทั้งนี้ ตนหวังว่า คอป.จะดำรงความเป็นอิสระและความเป็นกลาง หาก คอป.ไปโอนอ่อนต่อผู้มีอำนาจมันก็ไม่แก้ปัญหา ไม่ทำให้เกิดความปรองดองขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ออกมากำหนดท่าทีในการเคลื่อนไหว จะทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นหรือไม่
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันไม่ควรมีความรุนแรง หากรัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง เรื่องปรองดองก็ไปตามกระบวนการ อย่าเป็นเอาเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามามันก็จบไม่มีความขัดแย้งอะไร ตนเชื่อว่า พธม.เขาพูดว่าเขาต้องดูว่ารัฐบาลไม่ทำในสิ่งที่เป็นปมความขัดแย้งมันก็ไม่มีความขัดแย้ง ส่วนกรณีที่รัฐบาลมองว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มีพลังพอที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งนั้น ตนไม่ทราบ ตนคิดว่ารัฐบาลถ้าคิดว่าจะสร้างความขัดแข้งเพื่อประโยชน์ของคนคนเดียวได้เขาคิดผิด