คตส.ลุยสอบ เล็งยึดทรัพย์ทักษิณ

อีกหนึ่งเครือข่ายการเงินทักษิณ จดทะเบียนในหมู่เกาะฟอกเงิน ที่เดียวกับแอมเพิลริช พบเงื่อนนิติกรรมอำพราง โอนหุ้นร่วม 500 ล้านให้ เอม ไม่จ่ายเงินจริง ด้าน กรณ์เชื่อเป็นเครือข่ายเงินไม่สะอาดของแม้วในต่างประเทศ พร้อมให้ข้อมูล คตส.เพิ่ม ระบุพบหลักฐานยึดทรัพย์ได้แน่

ของคนในตระกูลชินวัตร ยังมีอีกหลายเงื่อนปมให้ต้องตรวจสอบ ล่าสุดมีกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ตั้งบริษัทวินมาร์คขึ้นมาเพื่อถือหุ้นของชินคอร์ปฯ และบริษัทย่อยในเครืออีกหลายแห่ง และถูกตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นบริษัทที่พ.ต.ท.ทักษิณตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกรรมอำพรางเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นหรือไม่

สำหรับปมการสอบสวนเรื่องการทำธุรกรรมอำพรางของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับหุ้นวินมาร์ค กำลังเป็นประเด็นใหม่ที่ คตส.ให้ความสนใจ นั้น เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้มีการทำธุรกรรมโอนหุ้นกันไปมาระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับบริษัทวินมาร์ค ซึ่งจดทะเบียนที่หมู่เกาะบริติช เวอร์จิ้น ที่ขึ้นชื่อด้านการฟอกเงินของโลก เช่นเดียวกับบริษัทแอมเพิล ริช

ก่อนการเลือกตั้งใหญ่เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตรได้โอนหุ้นของตัวเองที่ถืออยู่ใน 5 บริษัทคิดเป็นเงิน 1,500 ล้านบาทไปให้บริษัทวินมาร์ค โดยใน 5 บริษัทดังกล่าวพบว่ามีบางบริษัทเป็นบริษัทย่อยในเครือชินคอร์ปฯ เช่น บริษัทเอสซีแอสเซท บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือชินคอร์ป

ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ขายพ่วงไปให้กับเทมาเส็ก

และต่อมาวินมาร์คได้โอนหุ้นที่ได้จาก พ.ต.ท.ทักษิณจำนวน 4 บริษัทไปให้กับนางสาวพิณทองทา ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2547 เป็นจำนวน 46 ล้านหุ้น มูลค่า 468 ล้านบาท

ไม่เคยมีคำชี้แจงจากคนในครอบครัวชินวัตรอย่างเป็นทางการว่าการโอนหุ้นของวินมาร์คให้กับนางสาวพิณทองทาได้มีการจ่ายเงินให้กับวินมาร์คจริงหรือไม่ หรือว่าเป็นการโอนหุ้นให้แก่กันเฉยๆ เหมือนกรณีหุ้นแอมเพิล ริช

คณะทำงานสอบสวนกรณีเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ซึ่งเป็นคณะทำงานที่คณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีนายบรรณพจน์ และพวกหลีกเลี่ยงภาษีการซื้อขายหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์คอมมิวนิเคชั่น จำกัดตั้งขึ้น

ได้เชิญนายกรณ์ จาติกวนิช

รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์และอดีตประธานบริษัทเงินหลักทรัพย์เจพีมอร์แกนเข้าชี้แจงเรื่องการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปฯ โดยมีนายสัก กอแสงเรือง ประธานอนุกรรมการไต่สวนฯ ของ คตส. ร่วมสอบถาม โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 4 ชั่วโมง

ซึ่งนายกรณ์ได้ให้ข้อมูลกับ คตส.ว่า วินมาร์คมีข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่าเส้นทางการเงินของบริษัทดังกล่าวเป็นการตั้งกองทุนของ พ.ต.ท.ทักษิณในต่างประเทศโดยเฉพาะ เพื่อทำธุรกรรมในการซื้อขายหุ้น แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นำเงินมาจากไหนมีการทุจริตหรือไม่ และพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ปฏิเสธความเป็นเจ้าของวินมาร์คมาตลอด

ในเรื่องความยุติธรรมสำหรับผู้ถือหุ้นรายย่อยในชินคอร์ป ที่ไม่เคยรับรู้การทำธุรกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คตส.ยังมุ่งประเด็นว่าการทำธุรกรรมทั้งหมดมีหน่วยราชการหน่วยใดบ้างที่ให้ข้อมูลอินไซด์หรือข้อมูลภายในกับคนในครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ

ได้มอบเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอสซีแอสเซท และบริษัท วินมาร์ค ให้กับ คตส.พร้อมกับแนะนำให้ คตส.ติดตามเส้นทางการเดินของเงินของบริษัททั้งสองแห่ง จะพบว่ามีเงินไม่สะอาดซึ่งเป็นเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในต่างประเทศจำนวนมาก

และถ้าพบหลักฐานก็จะสามารถยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ด้วย ซึ่ง คตส.สนใจในเรื่องนี้มาก และตนอาจต้องมาร่วมชี้แจงต่อ คตส.อีกครั้งหนึ่ง

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์