พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังจากทำบุญตักบาตรพระ 265 รูป ที่นครวัด นครธม ประเทศกัมพูชา ว่า อยากจะกลับประเทศไทย นานแล้ว แต่เหตุผลที่ยังไม่ยอมกลับ เพราะบรรยากาศไม่ได้ แต่เชื่อว่าปีนี้ ทุกอย่างจะเข้าที่ รัฐบาลทำงานได้ดี สภาทำงานได้ โอกาสในการสร้างความปรองดองนั้นมีสูง ก็จะได้กลับประเทศไทยอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า ไม่กลัว หากจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ต้องเป็นกระบวนการที่ถูกต้องไม่ใช่เป็นกระบวนการที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหารที่ผ่านมา
พร้อมกันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อได้เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ก็จะไม่ไปกดดันการทำงานของรัฐบาล ในเรื่องการสร้างความปรองดอง อีกทั้งจะไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ อีก เพราะอายุมากแล้ว แต่จะคอยให้คำปรึกษาน้องสาว ในการทำงานเท่านั้น ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรม ที่มีหลายฝ่ายพูดถึง ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ย้ำว่าหากจะมีจริง ก็จะต้องยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เชื่อว่ามีการพูดคุยเรื่องการปฏิวัติมีอยู่จริง แต่การจะเกิดปฏิวัติอีกครั้งในประเทศไทยนั้นทำยาก ปัจจุบัน ประชาชนมีความตื่นตัวเรื่องประชาธิปไตย อีกทั้ง นานาชาติก็ไม่ยอมรับ รวมถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้นำการปฏิวัติ ปี 2549 ก็ออกมายอมรับแล้วว่าไม่เกิดประโยชน์ พร้อมกันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังแนะนำให้พรรคประชาธิปัตย์ ก้าวข้ามตัวเองให้ได้ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน และชื่นชมว่า ที่ผ่านมาทำงานเป็นฝ่ายค้านที่เก่ง
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดถึงการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า เห็นด้วยที่จะให้มีการเจรจาในระดับผู้ปฏิบัติการ เพราะว่าการแก้ปัญหาด้วยการพยายามตามไล่ล่าฆ่ากันให้ตายทั้งหมด หรือทำสงครามนั้น ก็ไม่เป็นประโยชน์แต่อย่างใด ทั้ง 2 ฝ่ายก็ล้าแล้ว ควรที่จะยุติปัญหาต่างๆ ด้วยการเปิดโต๊ะเจรจากัน แต่ไม่เห็นด้วยในการตั้งนครรัฐขึ้นมาแก้ปัญหา