วานนี้ (11 เม.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.)
แถลงผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุม โดยกล่าวถึงมาตรการของกองทัพในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปร่วมงานรดน้ำดำหัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศลาว และกัมพูชาในช่วงวันที่ 12-15 เม.ย.นี้ ว่า ให้พี่น้องประชาชนใช้ช่องทางผ่านเข้า-ออกตามด่านที่เป็นด่านถาวร เป็นช่องทางที่ทางราชการได้กำหนดไว้เพื่อเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย คนที่ไม่ได้ผ่านช่องทางที่ถูกต้องอาจจะมีข้อจำกัดเนื่องจากมีการใช้ช่องทางมาก รวมถึงการเฉลิมฉลองเพราะนอกเหนือจากคนไทยแล้วยังมีคนต่างชาติใช้ช่องทางดังกล่าว ในส่วนของกองทัพบกก็อำนวยความสะดวกให้ในส่วนที่เป็นช่องทางปกติ เราก็ทำเต็มที่ ทางกองทัพภาคที่ 2 จะดูแลในเรื่องการลักลอบสิ่งของผิดกฎหมาย และเน้นเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเข้มงวดกับกลุ่มคนเสื้อแดงมากกว่าปกติหรือไม่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ประชาชนทุกคนสามารถใช้เส้นทาง ตามด่านชายแดนต่างๆได้อย่างเต็มที่ เพียงแต่อยากให้ผ่านทางช่องทางที่มีเจ้าหน้าที่อย่างถูกต้อง ซึ่งจะเกิดผลดีต่อประชาชนเพราะเจ้าหน้าที่จะได้ทำงานได้ง่ายขึ้น
เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.เป็นห่วงกังวลว่ามีประชาชนข้ามไปเป็นหมื่นคน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า
ผบ.ทบ.ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ แต่พูดในภาพรวมว่า เทศกาลสงกรานต์ ทหารต้องเตรียมกลับเข้ามาทำงาน ถ้ามีเหตุสาธารณะภัยใหญ่เกิดขึ้นต้องเตรียมให้พร้อม อย่างไรก็ตาม ผบ.ทบ.ไม่ได้พูดว่าเป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุระเบิด แต่ห่วงเรื่องอุบัติภัย ทั้งอัคคีภัยและอุบัติเหตุทางถนน โดยสั่งการให้กรมแพทย์ทหารบกเตรียมพร้อมรวมถึงขั้นตอนในการส่งผู้ประสบเหตุหรืออากาศยานในการเคลื่อนย้ายวีไอพี
ส่วนข้อถามว่า ช่วงดังกล่าวจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดมาในประเทศ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า
เป็นข้อมูลที่เจ้าหน้าที่พยายามเพิ่มมาตรการและใช้วิธีการป้องกันอย่างเต็มที่ เมื่อประชาชนใช้บริการบริเวณพื้นที่ชายแดนจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้มงวดกวดขัน อย่างเข้มข้นในการตรวจ แต่จะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน หรือถ้าจะมีผลกระทบก็ให้น้อยที่สุด จึงอยากขอความร่วมมือผู้ที่จะเดินทางผ่านแดนต้องเตรียมข้อมูลเอกสารของตนเอง และให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในการตรวจตราเอกสาร รวมถึงของสำแดงหรือของต้องห้ามต้องให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในกาตรวจตราด้วย