วานนี้(5เม.ย.) การประชุมได้ดำเนินต่อ โดยสลับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ทำหน้าที่ประธาน
ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่การอภิปรายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ที่ค้างไว้ นายสมศักดิ์ ได้กล่าวว่าตนขอเปิดใจพูดกับนายสุเทพในฐานะน้องชายและพี่ชายว่าการที่เราถกกันในญัตติรายงานปรองดอง สิ่งที่อยากเห็นในสภาคือความปรองดองจริงๆ แต่ถ้ารื้อฟื้นความหลังมากล่าว นำสิ่งที่ยังไม่มีข้อสรุปมาสรุปเองให้ฝ่ายตรงข้ามเสียหาย มีแต่จะชวนทะเลาะ ประท้วงไม่หยุดไม่ใช่ปรองดอง แต่เมื่อคุณสุเทพยืนยันว่าจำเป็นต้องพูด ตนก็อนุโลม แต่นายสุเทพ ได้ชี้แจงว่า สิ่งที่อภิปรายไม่ใช่ฟื้นความหลังเพียงแต่พูดในภาพรวมว่าอะไรคือสาเหตุความขัดแย้ง การจะปรองดองต้องแก้ในสิ่งเหล่านี้ ได้โปรดอย่างมองว่าตนพูดความหลัง ถ้าประธานฟังแล้วใจกว้างอย่างที่พูดก็ต้องฟังตนและไปทำอย่างที่สถาบันพระปกเกล้าเสนอคือเปิดให้มีเวทีสาธารณะรับฟังความเห็นถ้าคนทั้งประเทศเอาด้วยกับรายงานที่เสนอนายสุเทพก็ไม่ขัดข้อง แต่ถ้าจะให้ปรองดองกับนายจตุพรและพ.ต.ท.ทักษิณ ตนไม่เชื่อ
จากนั้นส.ส.ทั้งสองฝ่ายได้โต้ตอบกันไปมา โดยฝ่ายเพื่อไทย อาทินายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้ลุกขึ้นเสนอว่า
พรรคเพื่อไทยจะให้นายสุเทพและพวกอภิปรายเต็มที่ ส่วนพวกตนจะไม่ประท้วงแม้แต่คนเดียวเพื่อให้การประชุมเดินหน้าต่อไปได้ แต่หลังจากนี้พวกตนจะอภิปรายต่อสู้ทุกประเด็น ต้องไม่มีใครประท้วงเช่นกัน นายสุเทพกล้ารับคำท้าหรือไม่ แต่นายสุเทพและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วยโดยให้เหตุผลว่าหากทำผิดข้อบังคับก็ต้องประท้วง ทำให้นายเสนาะ เทียนทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกไกล่เกลี่ยว่า เหตุที่ต้องมาประชุมเรื่องปรองดองกันวันนี้เพราะเกิดความขัดแย้ง คนข้างนอกอยากปรองดองกันทั้งนั้น แต่ในสภามันกล่าวหากันไม่หยุด การปรองดองได้ต้องไม่พูดเรื่องเก่า ใครผิดใครถูกต้องไม่พูดเลย ตัวอย่างเขมรแดงทะเลาะกันขนาดขับไล่กษัตริย์ของตัวเองแล้วตั้งประธานาธิบดี ซึ่งนายสุเทพ ได้ประท้วงทันทีว่า ประธานปล่อยให้ผู้สูงอายุอภิปรายเลยเถิด ตนรู้จักดีตั้งแต่เป็น รมช.เกษตรฯ แล้วและตนไม่ได้อภิปรายเรื่องสถาบัน ดังนั้นไม่ต้องมาอบรมสั่งสอนตนให้ผมเสียภาพพจน์ ส่วนภาพพจน์ของท่านๆรักษาเอง
กระทั่งเวลา 17.10 น. ประธานวินิจฉัยได้วินิจฉัยให้ดำเนินการประชุมต่อ
โดยข้อเท็จจริงที่ยังไม่ยุติ คอป.อยู่ระหว่างค้นหาความจริงขอให้หลีกเลี่ยงเพราะวันนี้พิจารณารายงานปรองดอง มีประเด็นอภิปรายต้องอยู่ในกรอบเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยเท่านั้นและจะยึดข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ขณะที่ส.ส.ทั้งสองฝ่ายก็ยอม ไม่ประท้วงระหว่างที่แต่ละฝ่ายอภิปราย
นายสุเทพ อภิปรายต่อว่า สาเหตุของความขัดแย้งหนึ่งคือเรื่องของอุดมการณ์ทางการเมือง
ที่พ.ต.ท.ทักษิณและสมุนบริวารมีแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ของแผ่นดินนี้ ฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณคิดเปลี่ยนโครงสร้างประเทศ สร้างรัฐไทยใหม่เป็นระบอบประธานาธิบดี มีพรรคเดียวปกครองประเทศ ประชาชนก็กลัวว่าพรรคเสื้อแดงจะยึดประเทศไทยแล้วล้างสมองคนในประเทศ เหมือนที่
เขมรแดงยึดกัมพูชา การกระทำของเสื้อแดงจะมีผลต่ออนาคตของลูกหลาน
นายสุเทพ ยังอภิปรายด้วยว่า
ในส่วนของรายงานวิจัยที่ว่าด้วยคดี คตส.ความจริงแล้วนายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ไม่สมควรจะเป็นกรรมาธิการปรองดองด้วยซ้ำเพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อน มีคดีที่อยู่ในการพิจารณาของ คตส.ทั้งบ้านเอื้ออาทร การจัดซื้อรถดับเพลิงของ กทม.ดังนั้นที่งานวิจัยเสนอให้ดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมปกติ โดยให้ ป.ป.ช.ดำเนินการใหม่แต่ไม่รวมคดีที่ตัดสินถึงที่สุดแล้ว ถ้าเอาตามนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกลับบ้านไม่ได้เพราะยังไม่หลุด แต่นายวัฒนาจะหลุดซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งกันเองได้เพราะทิ้งนาย แต่ก็มีข้อเสนอทางเลือกให้เพิกถอน คตส.และไม่นำคดีของ คตส.กลับมาพิจารณาใหม่คือเจ๊ากันไปหมดทุกคน แต่ถามว่าจบได้จริงหรือไม่