นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
ลุกขึ้นอภิปรายในระหว่างการประชุมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาวาระรับทราบรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ปรองดอง) เมื่อค่ำของวันที่ 5เมษายน โดยเรียกร้องให้พรรคฝ่ายค้านและทุกฝ่ายร่วมกันสร้างความปรองดอง เนื่องจากคนไทยแตกแยก เกิดการเผชิญหน้า เกิดความสูญเสียมามากแล้วจึงขอให้ก้าวข้ามความเกลียดชังนำประเทศไทยสู่ความปรองดอง
นายณัฐวุฒิยังระบุถึงอดีตที่ผ่านมาที่เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร เมื่อวันที่ 19กันยายน 2549นั้นทำให้เกิดกลุ่มคนเสื้อแดง
เนื่องจากเห็นว่ามีความไม่ยุติธรรม มีการใช้อำนาจล้มรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มาจากการเลือกตั้งและมีการใช้สองมาตรฐาน ล้มคว่ำพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนที่ชนะการเลือกตั้งรวมถึงพรรคอื่นๆ เช่นพรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมา ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการดูแลจนนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล
นายณัฐวุฒิระบุอีกว่า เคยเผชิญหน้าพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หลังรัฐประหาร 19 กันยายน แล้ว แต่เมื่อพล.อ.สนธิมีความพยายามสร้างความปรองดองเป็นประโยชน์กับคนทั้งประเทศ ดังนั้นนายณัฐวุฒิจึงร่วมสนับสนุน
"ทำไมวันนี้นายณัฐวุฒิเปลี่ยนใจกลืนน้ำลายตัวเองมาสนับสนุนพล.อ.สนธิหรืออย่างไร แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตัวบุคคลแต่เป็นเรื่องสถานการณ์ของประเทศ ถ้าพล.อ.สนธิยังเป็นหัวหน้าคณะยึดอำนาจ แล้วบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ จะยึดอำนาจผมจะสู้อีก สิ่งที่พล.อ.สนธิทำคือการปรองดองสร้างสันติภาพให้ประเทศที่ขัดแย้ง ดังนั้น ผมอภิปรายไม่ได้เข้าข้างพล.อ.สนธิ แต่เข้าข้างผลประโยชน์ประเทศ ถ้าบ้านเมืองไม่ปรองดองจะเดินต่อไม่ได้"
นายณัฐวุฒิยังกล่าวก่อนปิดท้ายอภิปรายอีกว่า "พล.อ.สนธินั้นในสายตาของผม เป็นหัวหน้าคณะปฎิวัติ แต่สำหรับพรรคฝ่ายค้าน พล.อ.สนธิคือผู้มีพระคุณ ควรไหว้พี่เขา"