'สุริยะใส'ชี้แนวคิดให้'ทักษิณ'เข้าพบ'ป๋าเปรม' บิดเบือนหลักการปรองดอง แค่ 'ฮั้ว' ทางการเมือง ย้ำคนแรกที่'ทักษิณ'ต้องเข้าพบถ้ากลับไทย คือ 'ศาล' เท่านั้น จี้ ส.พระปกเกล้าถอนงานวิจัย ก่อนไม่มีโอกาสได้แก้ตัว
29 มี.ค.55 นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่าคิดว่าข้อเสนอของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์
และแกนนำเสื้อแดงที่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เจรจาพูดคุยกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี สองต่อสองเพื่อการปรองดองของประเทศนั้นเป็นแนวคิดที่บิดเบือนจากแนวทางปรองดองที่ควรจะเป็น ความขัดแย้งแตกแยกในสังคมไทยขณะนี้ไม่ใช่เรื่องของคนสองคน แต่เป็นเรื่องที่คนทั้งประเทศต้องมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง การปรองดองต้องตอบโจทย์ความขัดแย้งของบ้านเมืองอย่างแท้จริง ไม่ใช่ตอบโจทย์และความอยากส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น
"ที่สำคัญแนวคิดแบบนี้กำลังบิดเบือนด้วยการดึงเอาป๋าเปรม ในฐานะประธานองคมนตรีและสถาบันมาเป็นคู่ขัดแย้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นต้นเหตุให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หลุดพ้นจากอำนาจ ซึ่งข้อเท็จจริงที่เป็นต้นเหตุความขัดแย้งทั้งปวงที่ยืดเยื้อเรื้อรังและร้าวลึกมานาน เกิดจากความก้าวร้าวและเหิมเกริมในอำนาจของระบอบทักษิณ ที่พยายามคุกคามครอบงำองค์อำนาจต่างๆ ในสังคมให้ขึ้นตรงและศิโรราบต่อตัวเอง" นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า กระบวนการปรองดองไม่ไปไหนเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามเอาชนะกระบวนการยุติธรรม
เมื่อตัวเองเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วถูกศาลตัดสินให้แพ้คดีกับกล่าวหากระบวนการยุติธรรมว่าเลือกปฏิบัติและไม่มีความยุติธรรม แต่ในขณะเดียวกันตัวเองก็ไล่ฟ้องคนอื่นและก็ปิติยินดีขอบคุณศาลเมื่อตัวเองเป็นฝ่ายชนะคดี พฤติกรรมแบบนี้เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำลายกระบวนการปรองดองตลอดมา และถ้าคุณทักษิณยังคิดแบบนี้ถืออัตตาเป็นใหญ่ ไม่คิดเสียสละเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ ก็เลิกคิดเรื่องการปรองดองเพราะไม่มีทางเกิดขึ้น
"ข้อเสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพบ ป๋าเปรม ก็แค่ความพยายามจะฮั้วทางการเมือง และหาวิธีพิเศษเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเท่านั้น คนที่คุณทักษิณจะเข้าพบคนแรกถ้ากลับมาเมืองไทยก็คือศาลสถิตยุติธรรมเท่านั้น" นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวต่ออีกว่า ส่วนข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้านั้น
วันนี้ชัดเจนว่าถูกพรรคไทยรักไทยบิดเบือนตัดตอนไปมาก สถาบันพระปกเกล้าต้องถอนงานวิจัยออกมาโดยเร็ว อย่าคิดอะไรซับซ้อนหรือเป็นการเมืองมากเกินไป เพราะสถาบันมีสถานะทางวิชาการต้องระมัดระวัง แม้สถาบันจะไม่มีเจตนาเข้าไปอยู่ในเกมการเมืองเรื่องปรองดองก็ตาม แต่วันนี้เกมมันไปไกลพอสมควรแล้ว และงานวิจัยนี้กำลังดึงสถาบันพระปกเกล้าเข้าไปอยู่ในเกมการเมือง และจะส่งผลต่อเกียรติภูมิของสถาบันอย่างรุนแรง ถ้าหากความขัดแย้งเรื่องการปรองดองในสภาลุกลามบานปลายมาเป็นการเผชิญหน้าของมวลชนนอกสภา ถึงตอนนั้นสถาบันพระปกเกล้าอาจจะไม่มีโอกาสได้แก้ตัว