สนธิ เย้ยเกมฝ่ายค้าน แค่วาทกรรม

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ ฐานะประธานกรรมาธิการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ (กมธ.ปรองดอง) สภาผู้แทนราษฎร
 
ให้สัมภาษณ์ "สำนักข่าวเนชั่น" ต่อประเด็นความขัดแย้งกลางประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ว่าเหตุการณ์ที่ตนถูกล้อมโดยสมาชิกรัฐสภานั้น ตนไม่ตกใจ เพราะเจอมาเยอะ โดยข้อเท็จจริงนั้นตนไม่ทราบว่าจะให้ทำอะไร หรือพูดตอนไหนเพราะตนเขียนหนังสืออยู่ อีกทั้งกรณีจะพูดในที่ประชุมต้องมีขั้นตอน มีจังหวะ ไม่ใช่ว่าจะยกมือแล้วพูดได้ ซึ่งตนเป็นมือใหม่ในสภาฯ จึงยังไม่ทราบว่าจะควรพูดตอนไหน การที่ฝ่ายค้านระบุให้ตนตอบขั้นตอนการทำงาน เป็นเพียงวาทกรรมทางการเมืองเท่านั้น เพราะเจตนาที่แท้จริง คือ อยากให้ตนพูด เพื่อทำให้เห็นว่าตนพูดได้หรือไม่ หากตนพูดแล้วจะเป็นสิ่งที่วัดผลว่าอนาคตทางการเมืองของตนนั้นจะอยู่หรือจะจบชีวิตลง แต่บังเอิญตนพูดได้

"เหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 27 มีนาคม ถือว่าเป็นปกติ ผมเป็นนักปกครอง ปกครองคนมาทั้งชีวิต ทั้งยามปกติ และยามสงคราม เคยปกครองคนที่ถืออาวุธ ยิ่งกว่านี้เจอมาเยอะ สิ่งที่ผมพูดไปเห็นชัดเจนว่ามีคนข้างมาก ทั้ง ส.ส.เพื่อไทย และส.ว.ที่สนับสนุน เพราะมีเสียงปรบมือในสภาฯ ทั้งที่ปกติเขาไม่ทำ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาอัดอั้น อยากว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นทำถูกแล้ว" พล.อ.สนธิ กล่าว

เมื่อถามว่ามีน้องๆ ทหารส่งสัญญาณในเชิงผิดหวังกับตัวเองในกรณีรับงานปรองดองหรือไม่ ประธาน กมธ.ปรองดอง กล่าวว่า หากติดตามอ่านคำสัมภาษณ์ของผู้นำทหาร เขาดีใจที่มีการสร้างความปรองดอง ส่วนเรื่องที่ตนเข้าไปเป็นกรรมาธิการปรองดอง ได้คุยกันและประสานร่วมกันหมดแล้ว ทั้งนี้ในกมธ.ปรองดอง มีตัวแทนของกทงทัพบกมาร่วมด้วย

เมื่อถามต่อว่ารายงานของกมธ.ปรองดอง หากถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์การเมืองและเป็นจุดที่สร้างขัดแย้งอีกรอบ จะรับผิดชอบอย่างไร
 
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "มันจะเกี่ยวกันได้อย่างไร เพราะรายงานเป็นงานทางวิชาการ ผมไม่ได้ทำคนเดียว มีพรรคประชาธิปัตย์และทุกพรรคมาช่วยกันทำ เรื่องของความรับผิดชอบเป็นเรื่องสภาฯ ที่ต้องค้นหาวิธี ส่วนวิธีใดที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ผมไม่เห็นด้วย"