เฉลิมอัด ปชป.มีพฤติกรรมน่าสมเพช ล้อมบิ๊กบังกลางสภา

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 28 มีนาคม

ถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายในที่ประชุมร่วมรัฐสภา จากกรณีที่พรรคฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนวาระเรื่องความปรองดองของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติขึ้นมาพิจารณา  ว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะกรรมาธิการ เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านมา 4 ปีเศษแล้ว ท่านก็คิดว่าการปฏิวัติไม่ถูกต้อง และการตั้ง คตส.ไม่น่าจะชอบธรรม เพราะเอาคนที่เป็นปรปักษ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นคณะกรรมการสอบ ท่านจึงได้คิดหาทางเยียวยาเพื่อนำไปสู่ความปรองดอง เพราะการปฏิวัติเป็นอำนาจนอกระบบที่ไม่ชอบ ก่อให้เกิดผลกระทบ ตนไม่เข้าใจว่าทำไมพรรคประชาธิปัตย์ถึงได้อนุรักษ์อำนาจคณะปฏิวัติจนไม่ยอมให้มีการปรองดอง ซึ่งจุดนี้ประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง

"ที่พรรคประชาธิปัตย์แสดงออกอย่างเมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) และไปล้อม พล.อ.สนธิ ถือว่าน่าเกลียด ผมนั่งดูอยู่ ยังสมเพช แค่พวกปลาซิวปลาสร้อย นกกระจิบ นกกระจอก แต่มาแสดงอิทธิฤทธิ์ แสดงตัวเป็นบู๊ลิ้มไม่เข้าท่า พล.อ.สนธิเขาเป็นนักรบ เขาจะกลัวหรือ แมวบางครั้งมันอ้วน ลายใหญ่ก็ไปเข้าใจว่าตัวเองเป็นเสือ พล.อ.สนธิเขาเป็นพลร่ม รบตั้งแต่เด็ก แต่พวกที่ไปล้อมเมื่อวาน ทำอะไรเป็นมั่ง ปืนแก๊ปยังยิงไม่เป็นเลย และยังมี ส.ส.บางคนไปถามว่าเขาเป็นทหารหรือเปล่า ก็เขาเป็น พล.อ. ไม่เป็นทหารแล้วให้เป็นอะไร เมื่อพรรคประชาธิปัตย์อนุรักษ์การปฏิวัติไว้แบบนี้ รอบหน้าผมหาเสียงง่ายแน่นอน เอาเทปไปเปิดให้ประชาชนฟังได้เลย เพราะขนาดหัวหน้าคณะปฏิวัติแท้ๆ เขายังบอกว่าการปฏิวัติมันไม่ถูกต้องชอบธรรม แต่ประชาธิปัตย์ที่อ้างตัวเป็นพรรคเก่าแก่ เป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยกลับชอบ มันประหลาด ตรงนี้เป็นเครื่องชี้วัดชัดเจน" ร.ต.อ.เฉลิม

รองนายกฯกล่าวด้วยว่า การสร้างความปรองดองจะสำเร็จและจบได้ด้วยการออกเป็น พ.ร.บ.เท่านั้น สิ่งที่ตนทำมาถือว่าสมบูรณ์ที่สุด
 
แต่แนวทางที่ทำอยู่ขณะนี้ แม้ว่าจะมีความตั้งใจดี แต่ไม่สำเร็จแน่นอน เพราะคิดไม่เป็นระบบ และความปรองดองจะพูดด้วยปากไม่ได้ แต่ถ้าออกเป็น พ.ร.บ. พรรคประชาธิปัตย์ก็คัดค้านไม่ได้ ถ้าลงมติแพ้ก็ต้องเคารพ เพราะถ้าไม่ฟังเสียงข้างมากในสภาแล้วจะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร

ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวสนับสนุนแนวทางปรองดองของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ว่า เป็นข้อเสนอที่ดี เหมาะสม และมีเหตุผล
 
ถือเป็นความคิดแบบผู้ใหญ่ ที่เคยเป็นผู้นำทหาร และเคยเป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามคำสั่ง 66/23 นั้น อาจจะใช้ไม่ได้กับกรณีก่อนและหลังปฏิวัติ เพราะสมัยที่ใช้คำสั่ง 66/23 ยังไม่มีการตัดสินคดีความ แต่ขณะนี้มีการตัดสินคดีความแล้ว ถ้าจะออกคำสั่ง 66/23 น่าจะไม่แล้วเสร็จตามกฎหมาย