วันนี้ ( 26 มี.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)เปิดเผยว่าแกนนำ พธม.
ได้มติที่จะจับตาดูสถานการณ์การเมืองภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยและคนที่ดูไบ หากเริ่มขบวนการล้างความผิดในอดีตเมื่อไหร่ เราจะออกมาชุมนุมทันที เพราะขณะนี้มีแนวโน้มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆที่รัฐบาลนี้จะดำเนินการทุกอย่างเพื่อคนคนเดียว แม้ว่าก่อนหน้านี้ได้ยืนยันมาตลอดว่าความผิดที่ตัดสินมีผลที่สุดทางคดีจะไม่กลับไปรื้อฟื้น แต่ปรากฏว่าจะมีการแก้รัฐธรรมนูญ ม. 309 เพื่อล้มรัฐธรรมนูญทั้งฉบับและนำไปสู่การนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ผันตัวเองมาเป็นนักการเมืองหัวหน้าพรรคเล็กๆก็พยายามทำตัวไม่ให้แปดเปื้อนกับการรัฐประหาร 19 ก.ย.49
หลังปฏิวัติ พล.อ.สนธิ ก็พูดเองว่าการปฎิวัติ คิดกันสองคน และร่วมทำการรัฐประหารกับนายทหารอีก 7 คน
โดย พล.อ.เปรม ติณสูญลานนท์ ประธานองคมนตรี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่มาวันนี้ กลับพูดเพื่อทำให้บรรยากาศการเมืองอึมครึมต่อไปว่าตายแล้วจะเปิดข้อเท็จจริงทั้งหมด ถามว่าทำให้เป็นความลับต่อไปเพื่อรับใช้ใคร ยิ่งไปเข้าทางคนเสื้อแดงให้นำไปโจมตีได้อีกมาว่ามีอำมาตย์ และใครต่อใครเกี่ยวข้อง เพื่อต้องการดึงทุกอย่างทุกระบบของประเทศลงมารับใช้คนคนเดียว ดังนั้นการปฏิวัติอาจจะเกิดขึ้นอีกเพราะนักการเมืองไทยที่เป็นคนกลุ่มเล็ก ๆ ของประเทศแต่ไม่รู้จักคำว่าผิด ถูก ชั่วดี และไม่คิดเสียสละเพื่อประเทศชาติ
นายปานเทพ กล่าวว่าหากพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการทุกอย่างได้สำเร็จในสภาก็จะเกิดความวุ่นวายในประเทศอย่างรุนแรงมากกว่าทุกครั้งแน่นอน เพราะระบบศาลเมื่อถูกดึงลงมาเป็นเครื่องมือและแทรกแซงได้ และยังมีการแทรกแซงองค์กรอิสระ และขณะนี้สามารถใช้รัฐบาลน้องสาวทำได้ตามต้องการทุกอย่าง ผู้คนจะออกมาเต็มถนนอีกครั้ง.