ตู่อัดปชป.หวังนายกฯส้มหล่น

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง

กล่าวถึงผลวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าเรื่องการสร้างความปรองดองว่า ในฐานะที่เป็น 1 ใน 47 คน ที่สถาบันพระปกเกล้ามาสัมภาษณ์เพื่อขอข้อมูลเรื่องความปรองดอง ความเห็นของตนเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น การสัมภาษณ์เพื่อเก็บข้อมูลของสถาบันพระปกเกล้าเป็นการรวบรวมความเห็นของบุคคลที่มีความเห็นแตกต่างกัน ดังนั้น ผลวิจัยของสถาบันไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จว่าประเทศจะปรองดองได้ การปรองดองจะเกิดขึ้นด้วยความพร้อมใจของทุกฝ่ายไม่ใช่จากผลวิจัย

นายจตุพรกล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิตกจริตกับผลวิจัย และสถาบันพระปกเกล้าก็วิตกจริตตามไปด้วยนั้น

ในฐานะของคนที่ให้ข้อมูลไม่เชื่อว่าผลวิจัยจะทำให้ประเทศปรองดองได้ สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ทุกภาคส่วนเข้าใจเรื่องความยุติธรรมก่อน แต่วันนี้ความยุติธรรมยังไม่เท่าเทียม เพราะคดีที่นายอภิสิทธิ์สั่งฆ่าประชาชนเมื่อ 2 ปีที่แล้วยังอยู่กับที่ไม่เดินหน้าไปไหน อีกทั้งแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการให้ประเทศปรองดอง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ขี้แพ้ แพ้มาเกือบ 20 ปี เรียกว่าแพ้จนบรรลุนิติภาวะ และจะแพ้ถึงวัยเบญจเพส พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความดีเป็นของตัวเอง จึงใช้สถาบันมาเป็นข้ออ้าง และใช้วิธีโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เหมือนที่ขึ้นป้ายโจมตีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ภาคใต้ เพราะเป็นความหวังเดียวของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะกล่าวหารัฐบาล เพราะคิดว่าหากให้รัฐบาลบริหารประเทศครบวาระจะแพ้หนักกว่าเดิม จึงต้องออกมาตีโพยตีพายเพื่อหวังส้มหล่นเป็นนายกฯด้วยวิธีพิเศษอีกครั้ง ตนขอเตือนว่า ไม่มีทาง

นายจตุพรกล่าวด้วยว่า การเดินหน้าปรองดองนั้นหากเสือสองตัวคือพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน และพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา

ยังอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ประเทศก็หาความปรองดองยาก หากพล.อ.สนธิและพล.ต.สนั่นต้องการปรองดองจริงควรจับเข่าคุยกัน อย่าไปพูดถึงเบื้องหลังการยึดอำนาจ เพราะมันสำคัญน้อยกว่าอนาคตข้างหน้าว่าประเทศจะเดินไปอย่างไร ถ้าเรายังอยู่กับเบื้องหลัง เบื้องหน้าก็รอความหายนะ ขณะนี้ตน ปรารถนาให้เกิดการปรองดองบนพื้นฐานความเสมอภาค

ต่อข้อถามว่าไม่ติดใจกับการที่พล.อ.สนธิทำรัฐประหารแล้วใช่หรือไม่

นายจตุพรกล่าวว่า ถ้าตนอาฆาตคงแสดงปฏิกิริยาต่อต้าน แต่บ้านเมืองนี้ไม่มีใครทำถูกทุกเรื่อง ชีวิตทุกคนมีถูกและผิด เมื่อพล.อ.สนธิต้องการแก้ปัญหาที่ก่อไว้เพราะเห็นว่าเมื่อยึดอำนาจแล้วความแตกแยกมีมากกว่าเดิม ตนก็มีน้ำใจนักกีฬาพอ หากยังอยู่ท่ามกลางความอาฆาตพล.อ.สนธิจะแก้ไขสิ่งที่ก่อไว้ไม่ได้ พระพุทธเจ้ายังให้โอกาสองคุลิมาลที่ทำผิดแล้วต้องการแก้ไข ควรได้รับการสรรเสริญมากกว่าคนทำผิดซ้ำซากและไม่เคยแก้ความผิดของตัวเอง

เมื่อถามว่าไม่อยากรู้เบื้องหลังการปฏิวัติแล้วใช่หรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า
 
คิดว่าทุกฝ่ายมีคำตอบหมดแล้ว คำถามและคำตอบของพล.ต.สนั่นนั้นตนทราบมาปีกว่าแล้ว ขณะนี้ทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้ว บ้านเมืองต้องเดินหน้า ไม่ใช่ว่าต้องการลืมอดีต หากถามกันต่อไปก็จะเป็นวังวนเช่นนี้ ถามไปก็ไม่มีข้อมูลเพิ่มมากขึ้น คำตอบรัฐประหารคงไม่มีมากกว่าที่ปรากฏจากนี้ เดินหน้าไปก็ไม่ได้ข้อมูลมากกว่านี้ จะเดินหน้าไปหาความขัดแย้งจนเกิดสงครามกลางเมืองหรือ สิ่งที่พล.ต.สนั่นพูดทุกคนมีคำตอบในหัวใจหมดแล้ว แต่จะทำอย่างไรให้เดินหน้าได้มากกว่านี้ ประวัติศาสตร์เมื่อถึงเวลาความจริงจะเปิดเผย การรุกในขณะนี้มากไปก็ไม่ได้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

เมื่อถามว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดง 5 ปีที่ผ่านมาถือว่าผิดเป้าหรือไม่ แกนนำคนเสื้อแดงกล่าวว่า การทำหน้าที่ของคนเสื้อแดงมาจากสถานการณ์ที่เรามีความเข้าใจในขณะต่อสู้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปมนุษย์แต่ละคนไม่มีใครไม่เคยทำผิด คนทำผิดที่แก้ไข จะไม่ให้อภัยเขาหรือ

นายจตุพรกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าทำเพื่อระบอบทักษิณและจะแก้ไขทั้งฉบับว่า

เป็นความเท็จร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะไม่มีการแก้ไขในหมวดสถาบัน ดังนั้น จะกล่าวหาว่าแก้ทั้งฉบับได้อย่างไร เวลานี้ยังไม่มีการแก้ไขอะไรจนกว่าจะฟังความเห็นของประชาชน ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์ กุข่าวว่าตนไปกล่าวว่าคนใต้โง่ที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงที่ตนลงพื้นที่ ตนไปอบรมเรื่องยาเสพติดที่จ.นครศรีธรรมราช ยืนยันว่าตนไม่ได้พูดว่าคนใต้โง่ เพราะมีสติมากพอในการพูด และจะนำเทปในการพูดคุยไปเปิดในรายการชูธง ทางสถานีเอเชียอัพเดท วันที่ 27 มี.ค. เวลา 20.00 น. เพื่อยืนยันว่าไม่ได้พูด ใครก็ตามรวมถึงสื่อบางฉบับที่ยังไม่หยุดกุข่าวเรื่องนี้จะดำเนินคดีฟ้องร้อง เพราะคนพวกนี้เห็นตนลงพื้นที่ภาคใต้กลัวจะเสียสถานะจึงกุข่าวหลอกลวง ตนยังมีกิจกรรมลงภาคใต้อีกหลายครั้ง อย่าใช้วิธีนี้มาบิดเบือนทำให้เกิดความเข้าใจผิด