คดีความที่ค้างอยู่ "ทักษิณ" ควรเข้ามาดำเนินการตามขั้นตอนหรือไม่อย่างไร?
ในบริบทนั้น ผมเรียนว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ควรได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตัวเอง ในกระบวนการยุติธรรมที่เป็นประชาธิปไตยปกติ นี่เป็นหลักการพื้นฐาน แต่อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ทางการเมืองคงจะเอาความคิดเห็นเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงลำพังไม่ได้ ก็คงจะต้องรอกระบวนการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทยมาตลอดเมื่อ 5 - 6 ปีที่ผ่านมา คงจะไปแยกพ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากจากการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองไม่ได้ เพราะท่านถือว่าเป็นตัวละครหลักสำคัญที่สุดตัวละครหนึ่งในสถานการณ์นี้ ในที่นี้มีบางคน บางฝ่ายพยายามที่จะอธิบายว่าความขัดแย้งทางการเมืองก็เรื่องหนึ่ง เรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เรื่องหนึ่ง แต่ความเห็นของผมว่าไม่ใช่ ผมว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกัน เมื่อทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกัน การจะพิจารณาในเรื่องดังกล่าวก็จะน่ามองในภาพรวมพร้อมๆ กันด้วย
การให้ความยุติธรรมกับคนใดคนหนึ่ง ไม่น่าจะมีกระบวนการสกัดขัดขวาง ยกเว้นว่ากระบวนการเหล่านั้นพร้อมที่จะสร้างประเด็นเพื่อต่อต้านการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา นั่นก็เรื่องหนึ่ง การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ผมก็เคารพ และสามารถทำได้ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ ท่านจะชุมนุมแสดงออกทางการเมืองโดยสงบสันติที่ไหน อย่างไรนั้น เป็นเสรีภาพ หากดูจากผลการสำรวจความเห็นของสมาชิกกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เขาแสดงออก ก็ทำให้เราเห็นความชัดเจนอะไรบางอย่าง เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรฯ บอกว่ายังไม่ถึงเวลาชุมนุมใหญ่จนกว่าทหาร ตุลาการ องค์กรผู้มีอำนาจต่างๆ จะเห็นด้วย และก็แสดงความมีส่วนร่วม ตรงนี้ก็ค่อนข้างชัดว่า ที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนไหวภายใต้การสนับสนุนกลุ่มใดบ้าง และผมเห็นว่าผลการสำรวจความคิดเห็นออกมาแบบนี้ก็จะทำให้กองทัพ ฝ่ายตุลาการต่างๆ ในบ้านเมืองระมัดระวัง รอบคอบ ในการแสดงออกต่อสถานการณ์ทางการเมืองเป็นอย่างยิ่ง
การเอา "ทักษิณ" กลับบ้านจะส่งผลต่ออายุรัฐบาลหรือไม่?
ผมเรียนว่าเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ประเด็นหลักคงไม่ได้อยู่ที่เงื่อนไขของเวลา ประเด็นหลักคงอยู่ที่สถานการณ์ทางการเมืองในภาพรวม และผมยืนยันว่าตัวพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ถูกกระทำอย่างร้ายแรงที่สุดคนหนึ่งในจำนวนหลายต่อหลายคนที่เป็นผู้ถูกกระทำและได้รับความเสียหายในเหตุการณ์ถึง 6 ปี แห่งความขัดแย้งที่ผ่านมา แต่วันนี้ เราบอกว่าทุกคนต้องได้รับความเป็นธรรม แต่กันพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่นอกวงความเป็นธรรมนี้ ผมก็ไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องคิดกันเช่นนั้น นอกจากว่าเป็นความคิดของฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ที่ปฏิเสธการดำรงอยู่ของพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองเท่านั้น
ใครจะเป็นเจ้าภาพในงานนี้?
ผมว่าหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เขากำลังพูดคุยกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกรรมาธิการของสภาฯ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) องค์กรต่างๆ อย่างที่ผมพูด เราคงไม่ได้แยกว่า เรื่องการสร้างความปรองดองเป็นเรื่องหนึ่ง เรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องหนึ่ง มันแยกอย่างนั้นไม่ได้ เพราะสถานการณ์ใหญ่เป็นเรื่องเดียวกัน เพราะฉะนั้น กระบวนการในการค้นหาข้อเท็จจริง กระบวนการสร้างความปรองดอง ก็ย่อมจะมีประเด็นของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นองค์ประกอบที่จะต้องคิดร่วมกัน เหมือนกับความเสียหายของเสื้อแดง ความเสียหายของพันธมิตรฯ ตำรวจ ทหาร ผู้ประกอบการต่างๆ ต้องเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาทั้งสิ้น
รัฐบาลจะนำ "ทักษิณ" กลับบ้านตามที่หาเสียงเอาไว้
ผมคงไปสรุปอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ หากรัฐบาลจะดำเนินการสิ่งใดต้องคำนึงถึงผลประโยชน์หลักของประเทศ อย่างที่เรียนว่า เวลานี้หากเราเข้าใจสถานการณ์ตรงกัน เรื่องนี้จะไม่เป็นประเด็นความขัดแย้งเลย แต่เวลาคนเลือกอธิบาย อธิบายแยกส่วน อธิบายว่าปรองดองต้องทำ แต่พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านไม่ได้ ทั้งๆ ที่เป็นสถานการณ์หรือเรื่องเดียวกันมาตลอดตั้งแต่ต้น กระบวนการขับไล่ โค่นล้มพ.ต.ท.ทักษิณ จนไปถึงการโค่นล้มรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช แล้วเกิดเหตุการณ์ต่อสู้ของคนเสื้อแดงเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมาเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะฉะนั้น หากจะแก้ปัญหานี้ จะต้องบูรณาการการแก้ปัญหาในภาพรวม คิดแยกส่วนไม่ได้ ถ้าประชาชนเข้าใจอย่างนี้ก็จะเห็นความจำเป็นตรงกันว่า เราต้องเปิดใจกว้าง
เวลานี้มีคนบางกลุ่มบอกว่า ต้องปิดทางพ.ต.ท.ทักษิณ ทุกกรณี ผมไม่อยากให้คิดอย่างนั้น ต้องคิดว่า เราต้องพยายามเปิดบ้านเมืองให้ออกจากวิกฤตของความขัดแย้งไปให้ได้ บ้านเมืองนี้ถ้าจะเป็นประชาธิปไตย มีความยุติธรรมให้กับทุกคน ทำไมเราต้องพยายามปฏิเสธ ต้องสร้างความสับสน
เมื่อก้าวไม่พ้น "ทักษิณ" ก็จะไม่เกิดความปรองดอง?
บางคนบางกลุ่มพยายามทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสุดยอดจักรวาลชีวิต ผมขอใช้คำนี้อีกครั้งหนึ่ง เพราะเป็นอย่างนั้นจริงๆ มีอะไรก็ทักษิณ ทักษิณ ทักษิณ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นของประเทศไทย ถ้าไม่ช่วยกันแก้ไข ไม่ช่วยกันคลี่คลาย สถานการณ์อาจวิกฤตบานปลายเสียหายอย่างที่ผ่านๆ มา เราต้องช่วยกันมองว่าหลายประเทศในโลกมีความรุนแรงกว่านี้ บาดหมางลึกซึ้้ง ทั้งเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา สีผิว ซึ่งละเอียดอ่อนกว่านี้ เขายังปรองดองกันได้ เพราะทุกคนเปิดใจกว้างและจับมือเดินมาด้วยกัน แล้วประเทศไทยขัดแย้งทางการเมืองหรือผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นด้านหลัก ทำไมบางฝ่ายถึงไม่เปิดใจ แล้วหาหนทางให้กับประเทศ มากกว่าการพยายามปิดหนทางคนที่คิดว่าเป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองอย่างเดียว
"ทักษิณ" ถูกกล่าวว่าเป็นผู้ก่อการร้าย?
ต้องเข้าใจว่าคดีความของพ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เป็นคดีความที่เกิดจากอำนาจของคณะปฏิวัติ แล้วคณะปฏิวัติก็ตั้งคณะอย่างคตส. มาทำหน้าที่พนักงานสอบสวน และคตส.หลายคนก็อย่างที่ทราบว่า บทบาททางการเมืองเป็นปฏิปักษ์อย่างชัดแจ้ง และปัจจุบันก็ยังเป็นปฏิปักษ์ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ เพราะฉะนั้น กระบวนการยุติธรรมอย่างนั้นเป็นปัญหา ยกตัวอย่าง 1 ใน 4 เหตุผลก็คือ คมช.ยึดอำนาจตอนนั้นบอกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ทุจริตคอร์รัปชั่น แล้วตั้งคตส.ขึ้นมาตรวจสอบว่าทุจริตจริงหรือไม่ คตส.มีหน้าที่อย่างเดียวคือชี้ว่าทุจริต เพราะถ้าสุจริตก็เท่ากับเหตุผลในการยึดอำนาจของคมช.เป็นอันตกไป ก็เท่ากับทำลายความชอบธรรมข้ออ้างของการยึดอำนาจ เพราะฉะนั้น เราจะเห็นว่า เมื่อคมช.ยึดอำนาจได้แล้วก็มีผู้รับเหมาแบ่งงานกันทำ รับเหมาร่างรัฐธรรมนูญก็ร่าง รับเหมาจัดการนายกฯ ทักษิณ รับเหมาสืบทอดอำนาจก็ว่ากันไป เขาจึงเรียกว่า มีผู้รับเหมาทำบันได 4 ขั้น ให้กับคมช. ในเวลานั้น
ฉะนั้น สถานการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ เกิดขึ้นจากตรงนั้น มันคนละอย่างกับกระบวนการยุติธรรมปกติ แล้วเราจะยอมให้ระบบของเผด็จการมาสร้างสิ่งที่ล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ทางการเมือง แล้วจะต้องรักษาเอาไว้ หรือจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ระบบเผด็จการสร้างถูกคลี่คลายสลายลงด้วยกลไกประชาธิปไตย และให้บ้านเมืองเดินหน้าไปต่อ ผมเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณ แต่บางฝ่ายไม่มีอะไรเลยนอกจากวิญญาณอาฆาตพยาบาท
เวลาไหนหรือสถานการณ์ไหนที่ "ทักษิณ" ควรจะกลับมา?
จากที่เคยทำงานร่วมกับพ.ต.ท.ทักษิณ มา หรือจากการที่ได้สนทนากับท่านมาโดยตลอด ผมเชื่อว่าสิ่งที่ท่านต้องการคือให้บ้านเมืองนี้กลับคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ ให้บ้านเมืองพบหนทางที่จะคลี่คลายความขัดแย้ง ผมเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการแบบนี้ แน่นอนว่าความเจ็บปวดก็เป็นเรื่องที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งรู้สึกได้ ต้องการกลับบ้าน กลับคืนสู่ประเทศไทยที่เป็นปกติ แต่เบื้องลึกของหัวใจพ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงอยู่อยู่ใต้ภายใต้จุดยืนตามที่ผมได้
เรียนไป
เพราะฉะนั้น ตัวท่านจะเป็นผู้พิจารณาสถานการณ์ว่าเมื่อไหร่ อย่างไร ถึงจะมีโอกาสได้กลับมา เราเคยมีบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ทางการเมืองผ่านปรากฎการณ์ที่เจ็บปวดมาแล้วหลายคน ไม่ว่าจะเป็นดร.ปรีดี พนมยงค์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ท่านเหล่านั้นต้องลาลับไปใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน หลังจากนั้นลูกหลานก็เคารพนับถือยกย่อง วันนี้สถานการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ผมคิดว่าไม่น่าจะปล่อยให้เป็นอย่างนั้น ขณะเดียวกันคดีทางการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ ก็พิเศษกว่าทั้ง 2 ท่าน คือกระบวนการทำลายล้างมันต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ต้องยอมรับว่ามีบางกลุ่มทุ่มเททุกสรรพกำลังเพื่อทำลายล้างพ.ต.ท.ทักษิณลงไปให้ได้
เราต้องเห็นด้วยกับข้อเท็จจริงที่ว่าท่านทั้ง 2 ไม่สามารถดำรงอยู่ในประเทศไทยได้ ผมเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ก็พร้อมที่จะสู้ในกระบวนการยุติธรรม ถ้าหากว่าบ้านเมืองนี้กลับคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตย และให้ความมั่นใจได้ว่าความเป็นธรรมยังมีกับพ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนกับคนไทยทุกคนที่ควรได้รับ