ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองวันนี้ ( 11 มีนาคม ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงรายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ระบุว่าหลังจากปล่อยราคาพลังงานให้ไปเป็นตามกลไกตลาดแล้วจะยกเลิกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
โดยรัฐจะจัดสรรงบประมาณมาชดเชยราคาก๊าซแอลพีจี สำหรับครัวเรือนเพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพของประชาชน ว่า ตนคิดว่ารัฐบาลควรหันมาใส่ใจในเรื่องนี้ ถ้าปล่อยลอยตัวราคาพลังงาน จะกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจในภาพรวมอย่างมาก ทำให้ค่าครองชีพสูงดันเงินเฟ้อเพิ่ม โดยขณะนี้ราคาน้ำมันขยับขึ้นแทบจะทุก 2 สัปดาห์อยู่แล้ว ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวจากปัญหาน้ำท่วมและตนเคยคำนวณต้นทุนที่แท้จริงในการผลิตพลังงาน เห็นว่าราคาของเราไม่ได้ต่ำจนเกินไปจนต้องมีการปล่อยให้ลอยตัว และถ้าจะปรับก็ทำได้เพียงเล็กน้อย แต่ไม่ใช่การปล่อยลอยตัว
"พรรคเพื่อไทยเคยมีนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งว่าจะยกเลิกกองทุนน้ำมันเพื่อลดกภาระให้กับประชาชน แต่ตอนนี้กลายเป็นรัฐบาลจะไม่ใช้กองทุนน้ำมันในการช่วยเหลือประชาชน" นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า ที่จริงรัฐบาลสามารถบริหารจัดการไม่ให้ขาดทุน แต่ต้องลงรายละเอียดในโครงสร้างของพลังงานแต่ละประเภทว่ามีนโยบายอย่างไร แต่รัฐบาลกลับไม่ใส่ใจ ตนเข้าใจว่ารัฐบาลอยากลอยตัวราคาพลังงาน โดยคำนึงถึงเรื่องผลกำไรของธุรกิจพลังงานมากกว่า และในวันข้างหน้าอาจมีเรื่องการขายรัฐวิสาหกิจ หรือการไปร่วมลงทุนกับเอกชน
อย่างไรก็ตามตอนนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลเลือกที่จะดูแลบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) มากกว่าดูแลประชาชน