ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการฟ้าวันใหม่ ทางBlue Sky Channel เนื่องในวันสตรีสากล ว่า
บทบาทของสตรี มีความก้าวหน้าไปมาก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ตนพยายามมาตลอดคือ การผลักดันให้รัฐบาลดูแลผู้หญิงทำงานที่มีบุตรที่ต้องดูแล โดยจัดสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการดูแลเด็กเล็กในที่ทำงาน รวมทั้งให้สิทธิ์การลาโดยไม่กระทบต่อหน้าที่การงาน อยากเป็นกำลังใจให้กับสตรีทั้งประเทศ คิดว่าขณะนี้ประเด็นเรื่องของสตรี กับการพัฒนานั้น ได้รับการยอมรับแล้วว่าเป็นเรื่องสำคัญ สหประชาชาติ เองให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะเมื่อไปดูเรื่องของเป้าหมายของสหัสวรรษ เกี่ยวกับการพัฒนา ก็เห็นได้ชัดว่าในหลาย ๆ ประเทศนั้น สตรียังอยู่ในฐานะที่มีความลำบาก สำหรับประเทศไทยนั้น ในแง่หนึ่งเราก็เห็นความก้าวหน้าของบทบาทของสตรี ในประเทศไทย เรื่องการศึกษา
“ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องพูดถึงนะครับ สอบเข้ามหาวิทยาลัยดัง ๆ คณะดี ๆ บอกว่าผู้หญิงชนะผู้ชายแบบขาดลอยนะครับ สอบเข้าทำงานก็เช่นเดียวกัน แต่ว่า ขณะเดียวกันนั้น เราก็มีปัญหาที่เกี่ยวข้องชัดเจน บางเรื่องก็เป็นปัญหาเฉพาะสำหรับสังคมเรา บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นทั่วโลก ปัญหาของสตรีอย่างนี้ครับ แม้ว่าขณะนี้ได้รับโอกาสทางการศึกษา ได้รับโอกาสการเข้าทำงานมากขึ้น แต่จะเห็นว่าในระดับของความก้าวหน้าทางอาชีพแล้ว มักจะไปติดขัด พูดง่าย ๆ ก็คือพอไล่ระดับขึ้นไป พอขึ้นถึงระดับผู้บริหารระดับสูงในสัดส่วนของสตรีลดลง ตรงนี้ส่วนหนึ่งที่เป็นปัญหาสากล ก็คือปัญหาของผู้หญิงที่จะต้องตัดสินใจในช่วงที่มีครอบครัว โดยเฉพาะเมื่อมีลูกต้องดูแลครอบครัวมากขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ผมพยายามมาตลอด และอยากให้รัฐบาลสานต่อนั้น คือการช่วยดูว่าทำอย่างไรจะเอื้อให้ผู้หญิงสามารถทำงานแล้ว ดูแลครอบครัวได้ ซึ่งผู้ชายก็ต้องมีหน้าที่ในการช่วยดูแลด้วยนะครับ แต่ยกตัวอย่างเช่นการมีสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับเรื่องของการดูแลเด็กเล็กในสถานที่ทำงาน เรื่องของสิทธิการลาไม่ให้กระทบกับความก้าวหน้าของอาชีพ อันนี้เป็นปัจจัย อันนี้ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่เป็นประเด็นที่ท้าทายอยู่ โดยสภาพของสังคมที่เปลี่ยนแปลงแล้วก็สภาพของครอบครัว สถาบันครอบครัว ซึ่งมีปัญหามากขึ้นทั้งปัญหาเรื่องของผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ สุขอนามัยในเรื่องนี้ ประเด็นเหล่านี้ยังมีข้อกฎหมาย ยังมีมาตรการ ยังมีนโยบายที่จะต้องเร่งรัดกันมากขึ้น ก็หวังว่าเรื่องเหล่านี้จะได้รับการตอบสนองเพราะว่าขณะนี้ความสนใจจะไปอยู่เฉพาะที่เรื่องของกองทุน เรื่องของเงิน
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงโอกาสของผู้หญิงในการเข้ามามีบทบาททางการเมืองว่า ปัจจุบันเป็นโอกาสดีพอสมควร แต่ยังมีปัญหาอยู่ว่า สัดส่วนผู้หญิงที่ทำงานการเมืองยังมีจำนวนค่อนข้างน้อย และบางหน่วยงานผู้บริหารระดับสูงก็เป็นผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางหน่วยงานซึ่งก็ต้องยอมรับว่าบทบาทของผู้หญิงนั้นยังอยู่ ถ้าคิดเป็นสัดส่วน อย่างเช่นกรณี ผู้ว่าราชการจังหวัด ในกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น นอกจากนั้นสิ่งที่เราก็มีปัญหามากก็คือเรื่องการเมือง เพราะว่าสัดส่วนผู้หญิงค่อนข้างน้อย แล้วก็ตรงนี้ก็เป็นที่ถกเถียงกันมาตลอดว่า มันจำเป็นจะต้องหาวิธีการอย่างไร เพื่อกระตุ้นหรือไม่อย่างไร
สำหรับบทบาทของผู้หญิงกับการเป็นผู้นำประเทศนั้น นายอภิสิทธิ์มองว่า หากวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้ ก็จะกลายเป็นการบั่นทอนบทบาทของผู้หญิงเอง ก็อยากให้มีการให้ความสำคัญกับประเด็นที่พูดไป เพราะเราก็ยังไม่ได้เห็นภาพตรงนี้ แล้วก็ที่ผมไม่ค่อยเห็นด้วยก็คือ ความพยายามพูดถึงความเป็นผู้หญิงในการอ้างบางสิ่งบางอย่างซึ่งเป็นการยอมรับการตรวจสอบตรงนี้ไม่ดีครับ เพราะตรงนี้จะเป็นตัวที่ทำให้มีปัญหาในเชิงทัศนคติมากขึ้น แล้วก็จะกลายเป็นว่าไปกระทบกับความก้าวหน้าของผู้หญิงเอง ถ้าเกิดสังคมมองว่าถ้าผู้หญิงดำรงตำแหน่งสูงแล้วจะตอบไม่ได้