เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล รายงานวัตถุประสงค์ในการเยือนประเทศญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 6-9 มี.ค.ว่า
เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นในทุกมติ พร้อมส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาเชื่อมโยงในอาเซียนและอนุภูมิภาคล่มน้ำโขง โดยเฉพาะการ่รวมกันพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากทั้ง 2 ประเทศต่างประสบภัยพิบัติร้ายแรงในปี 2554 สร้างความเชื่อมั่นและขยายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ทั้งด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ทั้งนี้นายกฯจะใช้โอกาสนี้สร้างความเชื่อมั่นต่อภาครัฐและเอกชนญี่ปุ่นว่า รัฐบาลไทยมีแผนการดำเนินงานชัดเจนเกี่ยวกับการป้องกันอุทกภัย และเชิญชวนให้ญี่ปุ่นเข้าร่วมในโครงการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของไทย
นอกจากนี้เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2554 นายกฯยังจะเดินทางไปเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เมืองเซ็นได จ.มิยากิเพื่อให้กำลังใจผู้ประสบภัยรวมทั้งพบปะผู้ใช้แรงงานชาวไทยด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำหนดการเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 6-9 มี.ค.นี้
โดยวันที่ 6 มี.ค. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังสนามบินฮาเนดะ และเข้าพักที่พระราชวังอาคาซากะ วันที่ 7 มี.ค. ช่วงเช้านายกฯกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดงานสัมมนานักธุรกิจ ต่อมาเวลา 10.30 น. นายโชซาคุ ยาสุอิ ประธาน Japan Finance Corporation (JFC) เข้าเยื่ยมคารวะ และร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันโดยสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น เวลา 14.00 น. ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเข้าเยี่ยมคารวะ และนายกฯกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการหารือระหว่างภาคเอกชนไทย-ญี่ปุ่น ก่อนเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาลญี่ปุ่น เวลา 17.30 น. หารือเต็มคณะกับนายกฯญี่ปุ่น ก่อนร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นายกฯญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ วันที่ 8 มี.ค. ช่วงเช้า นายกฯเข้าเฝ้ามกุฎราชกุมารญี่ปุ่นก่อนเดินทางจากกรุงโตเกียวไปเมืองเซ็นไดในเวลา 13.30 น.เพื่อเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และให้กำลังใจผู้ประสบภัยและแรงงานไทยในโรงงานนิคอน ก่อนเดินทางกลับกรุงโตเกียวในเวลา 18.00 น. จากนั้นร่วมงานไทยไนท์ วันที่ 9 มี.ค. ช่วงเช้า นายกฯหารือกับนักธุรกิจชั้นนำญี่ปุ่นเป็นรายบุคคล จากนั้นให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย โดยมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 02.00 น.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
