เวลา 10.30 น. วันที่ 1 มี.ค. ที่ห้องประชุมบก.น.5 พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุงรอง ผบช.น.
พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 พร้อมคณะพนักงานสอบสวนร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทีมทนายความพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ แจ้งความดำเนินคดีส.ส.และทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ สน.ลุมพินี
พล.ต.ต.อนุชัยเปิดเผยว่า ที่แจ้งความมี 3 คดี
คดีแรกกรณีนายศิริโชค โสภา นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และเจ้าของทีวีดาวเทียมบลูสกายนิวส์ ที่มีการสัมภาษณ์หมิ่นประมาทในรายการสายล่อฟ้า เมื่อวันที่ 15 ก.พ. กล่าวหานายกฯ ไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ว่าผิดจริยธรรม โดย 3 คนนี้ถูกดำเนินคดีข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาทางสถานีโทรทัศน์บลูสกาย เหตุเกิดวันที่ 8 ก.พ. แต่ภาพข่าวเผยแพร่วันที่ 15 ก.พ.
พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า คดีที่ 2 กรณีนายชวนนท์ให้สัมภาษณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่วันที่ 15-21 ก.พ.
กล่าวหาว่าการไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ของนายกฯ มีผลประโยชน์ทับซ้อนในการบริหารงานแผ่นดิน ถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และคดีที่ 3 น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวหาหมิ่นนายกฯ ว่าไม่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกฯ และในฐานะผู้เป็นแม่ ซึ่งทั้งหมดถูกแจ้งในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ปรากฏในสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์
"คณะพนักงานสอบสวนประชุมทั้ง 3 คดี มีพล.ต.ต.กฤษฏิ์เป็นหัวหน้า พบว่าคดีมีพยานหลักฐานให้ดำเนินคดีผู้ต้องหาได้ จึงออกหมายเรียกนายชวนนท์ และน.ส.มัลลิกา ให้มาพบพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ในวันที่ 6 มี.ค. เวลา 13.30 น. ซึ่งนายชวนนท์โดน 2 คดี ทั้งคดีร่วมกัน 3 คนและส่วนตัว ด้านน.ส.มัลลิกา ถูกดำเนินคดีเดียว ส่วนนายศิริโชค และนายเทพไท เนื่องจากเป็นส.ส. และอยู่ในสมัยประชุม ตามรัฐธรรมนูญห้ามออกหมายเรียก จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ต้องรอหมดวาระประชุมจึงเรียกได้ ซึ่งคดีหมิ่นนายกฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า ไม่หนักใจ เรื่องนี้เป็นไปตามพยานหลักฐาน โดยบช.น.มอบให้ตนดูแลให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
เวลา 15.30 น. ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคเพื่อไทย
แถลงภายหลังตำรวจออกหมายเรียกนายชวนนท์ และน.ส.มัลลิกา ให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นประมาทน.ส.ยิ่งลักษณ์ในวันที่ 6 มี.ค.นี้ว่า ขอเรียกร้องให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน ทั้งนายเทพไท และนายศิริโชคอย่าใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง หากบุคคลเหล่านี้มีหลักฐานขอให้แสดงสปิริตไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ อย่ามีพฤติกรรมปากกล้าขาสั่น ขณะเดียวกันขอตำหนิผู้ใหญในพรรคประชาธิปัตย์ด้วยที่ปล่อยให้โฆษกและรองโฆษกรับเคราะห์แทนในเรื่องนี้