จตุพรแนะเสื้อแดงอย่าไปสวนลุมฯ เป็นเหยื่อสยามสามัคคี

"จตุพร"เชื่อทำร้าย"วรเจตน์"แค่หลุมพรางล่อคนเสื้อแดง หวังใช้ล้มรัฐบาล แนะอย่าตกเป็นเหยื่อ"สยามสามัคคี"ชุมนุมสวนลุมพินีวันนี้(2มี.ค.)

นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ถูกทำร้ายร่างการว่า เป็นแค่เกมการเมืองที่ถูกเซ็ทอัพกันขึ้นมา เพราะในวันที่ 2 มี.ค.นั้นกลุ่มคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้นัดหมายชุมนุมกันที่สวนลุมพินี ดังนั้นก่อนการนัดหมายชุมนุม 2 วันจึงเกิดการทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ขึ้น ซึ่งเป็นการขุดหลุมพราง ชัดเจนว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นคนเสื้อแดงต้องตั้งหลักและตั้งสติ เพราะถ้าตกไปเป็นเหยื่อของสถานการณ์ เช่น คุมอารมณ์ไม่ได้ มีคนเสื้อแดงไปที่สวนลุมพินี แล้วมีการปะทะกันเกิดขึ้น ก็อาจจะเป็นเหตุให้มีการโค่นล้มรัฐบาลอีกได้ เกมกระดานนี้มันอ่านกันได้ไม่ยาก เพราะทางการเมืองนั้นปรากฎการณ์ต่างๆ เริ่มชัดเจนมากขึ้นแล้ว

 นายจตุพร กล่าวอีกว่า นับตั้งแต่การประชุมของพรรคประชาธิปัตย์ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาแล้วออกปฏิญญาหาดใหญ่ 8 ข้อออกมา

จากนั้นก็มีการชุมนุมในวันที่ 2 มี.ค.ที่สวนลุมพินี และการนัดประชุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันที่ 10 มี.ค. ซึ่งตรงนี้แม้ว่าจะอยู่คนละจุดแต่ก็ประสานเสียงกันโดยมีตัวเร่งสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่จ้องโค่นล้มรัฐบาลก็ต้องระวังด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะต้องกลายเป็นเครื่องมือสร้างสถานการณ์ให้กับใครหรือไม่ จนสุดท้ายอาจกลายเป็นการเปิดประตูให้มีการคว่ำกระดานกันขึ้น ทั้งนี้ ที่เคยพูดถึงเรื่องจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนเมษานั้น ขณะนี้มันก็เดินทางมาถึงเดินมีนาคมแล้ว ดังนั้นทุกอย่างจึงเริ่มเป็นรูปธรรมออกมามากขึ้น ซึ่งบรรยากาศขณะนี้จะถูกทำให้เหมือนช่วงก่อนการรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 อย่างไรก็ตาม หากมีการออกมาชุมนุมของประชาชนรัฐบาลต้องไม่ขัดขวาง และต้องไม่ปราบปรามประชาชนเหมือนรัฐบาลที่แล้ว

 นายจตุพร กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเริ่มมีการขนคนเพื่อมาร่วมชุมนุมในกทม.นั้น การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ผ่านมานั้น

พรรคประชาธิปัตย์รู้ดีเพราะเคยไปร่วมด้วย แต่ในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เกิดทะเลาะกันขึ้นมา คนที่มาชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ จึงหายไป ดังนั้นจึงตอบโจทย์ได้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ นั้นคนของใคร อย่างไรก็ตาม ควรจะเกรงใจความรู้สึกของประชาชนด้วย ขณะที่รัฐบาลต้องมองการชุมนุมของประชาชนว่าเป็นสิ่งสวยงาม และดูแลไม่ให้ใครมาสร้างสถานการณ์ได้ ส่วนผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบก็ต้องติดตามและประเมินสถานการณ์ เพราะเราผ่านร้อนผ่านหนาวมามากแล้ว ดังนั้นต้องระมัดระวังและประคับประคองสถานการณ์ไปให้ได้ ที่สำคัญ รัฐบาลชุดนี้จะต้องมีจุดแข็งโดยการเป็นรัฐบาลที่ซื่อสัตย์สุจริต

 ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังเดือนพฤษภาคมสมาชิกบ้านเลขที่111 จะกลับมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองมากน้อยเพียงใด
 
นายจตุพรกล่าวว่า ตนมองว่าเวลานี้สมาชิกบ้านเลขที่ 111 หลายคนก็กระจายไปอยู่ที่ต่างๆมากมาย และในพรรคเพื่อไทยเองก็มีจำนวนหนึ่ง ซึ่งตรงนี้เราต้องเปิดประตูต้อนรับ เพราะบ้านเลขที่ 111 นั้นจะมาเติมเต็มให้กับรัฐบาล เป็นการสร้างความแข็งแรงให้กับรัฐบาล ขณะที่บ้านเลขที่ 111 บางคน อาทิ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ หากพรรคชาติพัฒนาส่งชื่อมาให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลเราก็ต้องแต่งตั้งนายสุวัจน์ เพราะเป็นโควตาของพรรคร่วมรัฐบาล