โฆษก คมช ชี้แม้ว เคลื่อนไหว เพื่อสร้างเงื่อนไขกลับประเทศ

เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เดินทางเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่า การพบกันครั้งนี้จะเป็นการหารือเกี่ยวกับมาตรการที่ประเทศไทยตอบโต้สิงคโปร์ รวมทั้งความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ที่ล่าสุดเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น

ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปถึงสนามบินนาริตะแล้วเมื่อคืน (18 ม.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการเดินทางมาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก หลังถูกพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549

โดย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า เดินทางมาพักผ่อนกับครอบครัว และพบปะกับเพื่อนเก่า

ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการเยือนญี่ปุ่นของอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย และไม่มีกำหนดการพบปะใด ๆ ระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ กับเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของญี่ปุ่น

เนื่องจากญี่ปุ่นซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลไทยชุดปัจจุบัน ตระหนักดีว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นอ่อนไหวมากสำหรับรัฐบาลไทย

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยโตเกียว พร้อมกับรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยดังกล่าว

แต่ทางโฆษกมหาวิทยาลัย ระบุว่า มหาวิทยาลัย ไม่มีแผนการต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ และกำลังตรวจสอบข่าวกับบรรดาคณาจารย์เกี่ยวกับรายงานฉบับนี้

กล่าวถึงกรณีที่ประเทศญี่ปุ่นยกเลิกการบรรยาย ที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ในส่วนของการประสานด้านการทูต มีการประสานอย่างต่อเนื่อง และคงไม่มีการชี้แจงอะไรเพิ่มเติม

และเมื่อถามว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ที่ประเทศญี่ปุ่น จะมีการบล็อกสัญญาณหรือไม่ ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้สั่งการให้บล็อกสัญญาณของอดีตนายกรัฐมนตรี

กล่าวภายหลังทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น โดยจะเข้าพบนักธุรกิจชั้นนำในญี่ปุ่น และเตรียมกล่าวสุนทรพจน์ในที่สาธารณะ ว่า เป็นสิทธิที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำได้ แต่ต้องอยู่บนหลักสากลทางการทูต

ซึ่ง คมช.ก็ไม่ได้ห่วงกังวล หากไม่ได้มีการเข้าพบผู้นำในประเทศนั้นๆ โดยทราบดีว่า การเคลื่อนไหวเหล่านี้ทำเพื่อสร้างเงื่อนไขเพื่อกลับประเทศ แต่ก็เห็นว่ายังไม่ควรกลับมาในตอนนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยก

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
(หนังสือพิมพ์ที่มียอดขายสูงสุด)