พลันที่เหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย “วรเจตน์ ภาคีรัตน์” อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1ในสมาชิกคนสำคัญของ “กลุ่มนิติราษฎร์” เกิดขึ้นเมื่อประมาณบ่ายสามโมงกว่า ของวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 การสื่อสารกันในโลกออนไลน์ เกิดขึ้นอย่างฉับไว ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอ “ข้อเท็จจริง” หรือ “ความคิดเห็น” ก็ล้วนแล้วแต่เป็นความเคลื่อนไหว ที่ผลักดันสถานการณ์ให้เกิดความสั่นสะเทือน แต่ไม่ว่าความสั่นสะเทือนจะสร้างแรงกระเพื่อม ออกไปไกลกว่าจุดเกิดเหตุแค่ไหน สิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้ คือการอธิบายจากปากคำ ของอาจารย์ผู้นี้ กรณี 2 คนร้ายดักรอทำร้ายที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พร้อมคำพูดทิ้งท้ายอย่างท้าทายว่า ถ้าเปิดกล้องวงจรปิดก็จะรู้เองว่าเป็นใคร
“มติชนออนไลน์” เรียบเรียงถ้อยคำในการแถลงของ “วรเจตน์” ในช่วงค่ำวันเดียวกัน ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาจะไม่ยอมให้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาทั้งชีวิตจากเหตุการณ์นี้ และฝากถึงสื่อมวลชนให้นำเสนอหลักการ ในประเด็นที่ละเอียดอ่อน เพื่อป้องกันความไม่เข้าใจแล้วมาทำร้ายผู้อื่นอีก
@ อาจารย์ช่วยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผม ขับรถเข้ามาที่คณะ(นิติศาสตร์ มธ.)วันนี้(29 ก.พ. 2555) ประมาณ บ่ายสามโมงสี่สิบกว่านาที เพราะช่วงเช้าไปบรรยายที่คณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ ให้อาจารย์ไชยันต์ ไชยพร เมื่อบรรยายเสร็จก็นั่งทานข้าวกับอาจารย์ไชยันต์ แล้วก็เดินดูหนังสือนิดหน่อย แล้วแวะไปหาหมอที่โรงพยาบาลหัวเฉียว แล้วเข้ามาที่คณะ เพราะผมมีประชุมตอน 4 โมงเย็น
พอขับรถเข้ามาก็จอดรถแล้วผมก็เก็บของในรถสักพักหนึ่ง แล้วผมก็ลงจากรถ แล้วพอดีเจออาจารย์อีกท่านหนึ่ง ท่านจอดรถข้างหลังผม พอลงจากรถก็หันไปคุยกับอาจารย์ท่านนั้น แล้วตอนคุยอยู่ อาจารย์ท่านนั้น ก็มองไปที่ข้างหลังผม เหมือนกับมีคนเดินมาข้างหลัง ผมก็ยังไม่ทันอะไร
ก็รู้สึกว่าโดนของกระแทก ที่กกหูด้านขวา หลายครั้ง แล้วก็ล้ม แล้วก็เซ ไป แล้วอาจารย์ท่านนั้น ก็เลยมากันคนที่ชกผมออกไป แล้วพออาจารย์มากันข้างหน้า ผมก็อยู่ข้างหลัง ในขณะที่ผมกำลังยืนอยู่ แว่นก็ตกลงไปแล้ว ก็มองอะไรไม่ถนัดก็มีอีกคนหนึ่งวิ่ง ออกมาจากทางบริเวณคอมมอน (ใต้ห้องสมุดคณะนิติศาสตร์) แล้วก็มาชกซ้ำ อีกหลายครั้งเหมือนกันแล้วผมก็ล้มไปแล้วพอชกเสร็จปุ๊บ 2 คนนี้ ก็ขึ้นมอเตอร์ไซต์ออกไป
ผมได้ยินเขาพูดประมาณว่า มารอผมตั้งแต่เช้าแล้วเท่าที่ผมได้ยิน ส่วนอันอื่นก็ไม่ได้ยิน แต่อาจารย์อีกท่านหนึ่งบอกว่าตอนก่อน(คนร้าย)จะไป เขาบอกประมาณว่า เดี๋ยวดูจากกล้องวงจรปิดก็คงทราบเองว่าเขาเป็นใครนะครับ อันนี้คือเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
@อาจารย์สันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากเรื่องอะไร
ก็คงมีเรื่องเดียว เพราะว่าชีวิตผม มันก็ไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรแบบนี้มาก่อน มันเกิดเหตุการณ์ในช่วงเวลานี้ก็คงเกี่ยวกับบทบาทของคณะนิติราษฎร์ แต่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรโดยเฉพาะ คงไม่ทราบได้ แต่ว่าก็คงเป็นเรื่องกิจกรรมวิชาการที่เราทำไป อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับบางกลุ่ม เพราะว่า ก่อนหน้านี้ก็มีไปรษณียบัตร มีจดหมาย เขียนมาด่าทอ ก็มีมาเป็นระยะๆ แต่ว่าช่วงหลังก็เงียบไป
แล้วก็ทางแม่บ้านเอง ก็เคยบอกผม ว่ามีคนมาถามหาผม ต้องถามทางแม่บ้าน ว่าช่วงที่มีคนมาเผาหุ่นผมที่หน้ามหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็มีคนมาถามหาผม จากแม่บ้าน
ทีนี้ เวลาที่เข้ามาทำงานที่นี่ ก็ไม่ได้มาเป็นเวลา เพราะว่าบางทีผมก็ไปสอนที่รังสิต บางทีผมก็มีงานบรรยายข้างนอกแบบวันนี้ เขาก็คงไม่ทราบแน่ว่าผมจะมาวันไหน เขาคงมานั่งรออยู่ คงเป็นอย่างนั้น
@ ก่อนหน้านี้ เคยมีการถูกข่มขู่ถึงชีวิตหรือไม่
ข่มขู่ ก็จะมี ส่วนใหญ่เขียนจดหมายมา เป็นจดหมายขู่แบบไม่ลงชื่อที่อยู่ อะไรประมาณนี้ ก็มีอยู่บ้าง
@เคยมีการคุกคามซึ่งหน้าหรือไม่
ไม่มีครับ ผมไม่เคยเจอการคุกคามซึ่งหน้า(มาก่อน)
@ ได้คุยกับอาจารย์ท่านอื่นในกลุ่มนิติราษฎร์หรือยัง
ยังไม่ได้คุยกันครับ ก็นั่งกันอยู่ที่นี่ (ห้องแถลงข่าว) ผมก็เพิ่งไปโรงพยาบาล แล้วก็กลับมาเดี๋ยวนี้ ไปตรวจแผลอะไรต่างๆ แล้วก็กลับมา
@หลังจากนี้จะลดบทบาทตัวเองหรือไม่
ในแง่ของการทำงานทางวิชาการ ก็คงทำต่อไป เพราะผมถือว่า ที่ผมทำไปนั้น ทำไปบนหลักการที่ถูกต้อง
แล้วก็เป็นเรื่องที่วางอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล ที่เสนอไปทั้งหมด ก็เป็นเรื่องที่เสนอให้สาธารณะได้ตรึกตรอง