ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ก.พ. ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมิ่นเบื้องสูง รวม 3 คดี
หมายเลขดำ อ.1620/2554 ,อ.3178/2554 ,อ.360/2555 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ "สุรชัย แซ่ด่าน" อายุ 68 ปี แกนนำกลุ่มแดงสยามเป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 11 ก.ย.– 18 ธ.ค. 53 จำเลยได้กล่าวปราศรัยโดยมีเจตนาให้ประชาชนทั่วไปเสื่อมศรัทธาไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
บนเวทีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ที่ จ.อุดรธานี จ.เชียงใหม่ และเวทีเสวนาของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน คำรับสารภาพประกอบรายงานการสืบเสาะจาก พนักงานคุมประพฤติแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ให้จำคุกคดีละ 5 ปี รวมจำคุกจำเลย 15 ปี คำสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยไว้ 7 ปี 6 เดือน
อย่างไรก็ตามเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแม้จำเลยจะมีอายุ 68 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์
และยังเคยได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิก อบจ.นครศรีธรรมราช ย่อมมีวุฒิภาวะและความรู้ผิดชอบแต่จำเลยก็ยังกระทำผิดซ้ำ ประกอบกับในช่วงที่จำเลยกระทำผิดสังคมมีการแตกแยก แบ่งฝ่ายการที่จำเลยมีพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมทำให้ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น ประกอบกับที่จำเลยกล่าวถึงสถาบันเบื้องสูงว่าอยู่เบื้องหลังของความขัดแย้งก็ไม่เป็นความจริง พระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท ก็ดำเนินพระราชกรณีกิจเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกร พฤติการณ์แห่งคดีจึงมีความร้ายแรงไม่สมควรให้รอการลงโทษ
ทางด้านนายคารม พลพรกลาง ทนายความกล่าวว่าในส่วนของนายสุรชัย ยังเหลือคดีหมิ่นเบื้องสูง
ซึ่งอยู่ในชั้นสอบสวนของพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง อีก 1 สำนวน เพื่อรอส่งให้พนักงานอัยการ ซึ่งนายสุรชัยมีแนวทางที่จะให้การรับสารภาพ โดยหลังจากนี้จะได้เตรียมทำเรื่องขออภัยโทษเป็นกรณีพิเศษต่อไป