เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเมาสุราระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า การที่น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาว่ามีอาการเมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะเห็นว่าตนหน้าแดงนั้น ที่จริงในช่วงเย็นของวันดังกล่าว ตนได้ไปร่วมงานแต่งงานของบุตรชายของพล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพียงครู่เดียว โดยไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
และเมื่อตนระหว่างเดินทางกลับมาที่รัฐสภา ก็ได้ฟังคำอภิปรายของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ
แต่เป็นการพูดถึงแต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตนจึงสงสัยว่าทำไมส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ลุกขึ้นประท้วง ซึ่งตนไม่ทราบว่าคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)ไม่ให้มีการประท้วง เพื่อให้การอภิปรายจบไป กระทั่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นพูดอภิปราย ซึ่งเป็นช่วงที่ตนมาถึงรัฐสภาพอดีแล้วไปนั่งฟังอยู่ที่ห้อง 3301 อาคารรัฐสภา 3 ประมาณ 10 นาที จึงเข้าไปในที่ประชุมรัฐสภาเพื่อประท้วง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ตนอยากถามว่าคนที่มีอาการเมา จะรู้จักข้อบังคับการประชุมหรือ และจะพูดว่า“ท่านประธานที่เคารพ ขออนุญาตว่าผู้อภิปรายขัดข้อบังคับการประชุม”ได้หรือ
จากนั้น น.ส.รังสิมา ก็พูดโวยวาย ส่วนการที่ตนเดินไปหาน.ส.รังสิมานั้นเพื่อพูดคุยว่าตนไม่ได้เมาเหล้า แต่เมารัก
ซึ่งไม่ใช่เพื่อไปคุกคาม เพราะรู้จักกันมาก่อน แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับวิ่งกรูเข้ามาจำนวนมากและแสดงท่าทางเหมือนกับตนจะเข้าไปทำร้ายน.ส.รังสิมา ซึ่งตนจะไปทำเช่นนั้นได้อย่างไร เพราะตนมีอายุมากกว่า และรัฐสภาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะไปตบตีผู้หญิงก็ถือว่าเกินกว่าเหตุ ดังนั้นตนขอเชิญทุกองค์กรตรวจสอบจริยธรรมของตนได้เลย ซึ่งนี่ไม่ใช่การท้าทาย แต่คนที่ชั่วคือพวกที่ชอบเป็นชู้กับสามีหรือภรรยาของคนอื่น นอกจากนี้ ส่วนการที่ท่าเดินของตนดูโซเซโขยกเขยก คล้ายกับคนเมานั้น เป็นเพราะตนป่วยที่ก้านหูมา 4 ปีแล้ว
“มาบอกว่าผมหน้าแดงเพราะผมออกกำลังกาย แล้วมาหาว่าผมเมา ไม่เข้าใจพวกหน้าดำ ๆ เพราะไปฆ่าคนมาเยอะ แต่ผมไม่เคยไปฆ่าใคร หน้าผมก็แดง และผมมีวินัยอย่างหนึ่งว่าก่อนปราศรัยหรืออภิปรายในสภาฯ ผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และการมีไวน์ไว้ในรถหรือบ้านไม่ได้ผิดกฎหมาย คนที่พิสูจน์ได้ว่าเมาไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นผู้ตรวจจับแอลกอฮอล์คนที่ขับรถ จึงรู้ว่าใครเมาหรือไม่เมา”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่านายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ไปตรวจสอบถังขยะในรัฐสภาแล้วพบว่ามีขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “เวลาคนไปประชุมสภามีตั้ง 2,000 คน ผมจะรู้หรือว่าใครไปทำอะไรบ้าง” ต่อข้อถามว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นกระทู้ถามสดเรื่องนี้ในสภาฯ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “กราบขอร้องเดี๋ยวนี้ว่าช่วยยื่นกระทู้สดถามหน่อยเถอะ แน่จริงนายอภิสิทธิ์ยื่นสิ เพราะคุณรังสิมามือไม่ถึง แล้วผมจะตอบให้”
เมื่อถามว่ามีการเสนอให้ติดตั้งเครื่องตรวจแอลกอฮอล์ในห้องประชุมรัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า
ต้องแก้ไขกฎหมาย จึงจะทำได้ แต่ตนไม่จำเป็นที่ต้องไปดื่มไวน์ที่รัฐสภา เพราะที่บ้านตนก็มี และออกไปกินที่ร้านอาหารข้างนอกก็ได้ พรรคประชาธิปัตย์เอาเรื่องไร้สาระมาจ้องจับผิดตนอย่างเดียว เพราะอิจฉาที่ตนมีผลงานในการปราบปรามยาเสพติด.