นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวในรายการฟ้่าวันใหม่ ทางบลูสกายเคเบิลทีวี ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า
ได้แสดงความเป็นห่วงมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าเดินตามกระบวนการอย่างที่เป็นอยู่ ความขัดแย้งเกิดขึ้นแน่ เพราะเราขาดความชัดเจนว่ารัฐธรรมนูญที่จะมีการแก้ไขนั้น
ในที่สุดแล้วคือแก้ไขเพื่ออะไร ถ้าจะพูดให้ชัดขึ้นไปอีก ในทางตรงกันข้ามการที่ร.ต.อ.เฉลิมก็ดี หรือหมอเหวงก็ดี เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า แก้รัฐธรรมนูญนำไปสู่การนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้าน มันยิ่งชัดเจนขึ้นไปใหญ่ว่าเป็นการสร้างปมความขัดแย้งครั้งใหญ่ และนี่ก็เป็นตัวที่ฟ้องว่าพอเอาเข้าจริง แนวคิดที่พูดว่าจะพยายามผลักดันให้เกิดเรื่องการปรองดองนั้นมันไม่ใช่ แล้วก็ยิ่งถ้าเป้าหมายประกาศกันชัดแบบที่ไปประกาศที่อุดรฯ แล้ว ว่าที่ทำทั้งหมดเพื่อให้คุณทักษิณกลับบ้านก็เป็นความขัดแย้งแน่นอน
สำหรับ 2 วัน ในการประชุมสภาฯ วาระแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สส.ของพรรคประชาธิปัตย์มีผู้สนใจต้องการอภิปรายเป็นจำนวนมาก และคงไม่ได้พูดหมดทุกคน แต่จะใช้โอกาสนี้ชี้แจงให้ประชาชนเห็นว่าการอ้างว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะต้องยกร่างกันทั้งฉบับนั้น แท้ที่จริงแล้วที่มาที่ไปนั้นเป็นอย่างไร เราจะทำหน้าที่ของเรา และทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคฯ ก็มีผู้ที่สนใจอยากจะอภิปรายเยอะพอสมควร 4 – 50 คน ก็คงจะไม่ได้พูดกันทุกคนนะครับ แต่เมื่อวานก็ได้มีการมาแลกเปลี่ยนกันถึงประเด็นซึ่งก็เห็นตรงกันว่า เมื่อจะมีการสร้างความขัดแย้งขึ้นมา และเป้าหมายสุดท้ายไม่ใช่เป้าหมายของการปฏิรูปการเมือง หรือการปรองดองอย่างที่อ้างไว้ แล้วก็เป็นโอกาสที่เราจะได้ชี้ให้พี่น้องประชาชนเห็นว่า สุดท้ายแล้วที่อ้างกันว่ารัฐธรรมนูญจำเป็นจะต้องยกร่างกันใหม่ทั้งฉบับนั้น ที่มาที่ไปของมันจริง ๆ คืออะไร
ส่วนการที่ฝ่ายพันธมิตร ออกแถลงการณ์และ อาจนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีว่าเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญนั้น นายอภิสิทธิ์์ กล่าวว่าแต่ละคนก็สามารถใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญได้ แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้นจะยังคงทำหน้าที่ในสภาฯ เพื่อคัดค้านเรื่องนี้ต่อไป แต่ละคนก็สามารถจะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ ใครมีความเห็นทางกฎหมายอย่างไรก็สามารถจะใช้สิทธิ์ได้ แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เราก็คงทำหน้าที่ของเราในสภาฯ ในการที่จะคัดค้านเรื่องนี้